กระทรวงการคลังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเครื่องดื่ม ได้มีเวลาปรับตัวนานถึง 6 ปี โดยจะเริ่มทยอยเก็บภาษีน้ำหวานเพิ่มแบบขั้นบันไดทุกๆ 2 ปี
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลัง มติ ครม.เห็นชอบกฎหมายโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ จำนวน 13 สินค้า และ 4 บริการ ว่า สินค้าที่ได้รับผลกระทบมากสุด จะเป็นภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่ม เพราะจากเดิมถูกเก็บภาษีจากฐานราคาเพียงอย่างเดียว รวมถึงเครื่องดื่มบางชนิดก็ไม่ถูกเก็บภาษี
แต่ในอัตราภาษีสรรพสามิตที่กำลังจะใช้ใหม่ จะมีการเพิ่มการจัดเก็บภาษีในส่วนของความหวานหรือค่าน้ำตาลรวมอยู่ด้วย
เพื่อให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องของกระทรวงสาธารณสุข และกลุ่มเอ็นจีโอ ที่ต้องการให้ประชาชนลดการบริโภคน้ำตาลจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลัง จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเครื่องดื่ม ได้มีเวลาปรับตัวนานถึง 6 ปี แบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงละ 2 ปี โดยในช่วง 2 ปีแรกจะเก็บในอัตราที่ต่ำสุด และทยอยขยับขึ้นไปจนเต็มอัตราในปีที่ 6
ทำให้ผู้ประกอบการมีเวลาปรับเปลี่ยนสินค้า หรือปรับสูตรการผลิตโดยลดการใช้น้ำตาลให้มีความหวานน้อยลง ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น และเป็นภาระต่อผู้บริโภค
โดยทางกระทรวงการคลังยืนยันว่า อัตราภาษีใหม่ที่เกิดขึ้นจะไม่ทำให้ผู้ประกอบการ และประชาชนได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นมากเกินไป