เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เผย "นายบุญทรง เตริยาภิรมย์" นอนเรือนจำคืนแรก พบมียังปรับตัวไม่ได้ มีความเครียดตามปกติ แต่ไม่เครียดมาก โดยยังไม่อนุญาตให้ทนายความเข้าเยี่ยม เพราะอนุญาตให้เยี่ยมเฉพาะจันทร์-ศุกร์เท่านั้น ขณะเดียวกัน วานนี้ ได้ส่งตัวผู้ต้องหาคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี ไปเรือนจำคลองเปรมแล้ว

นายนรินทร์ สมนึก ทนายความของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมญาติผู้ต้องขังคีดทุจริตระบายข้าวจีทูจี ได้เดินทางที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อขอเข้าเยี่ยมนายบุญทรง และผู้ต้องขัง ภายหลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาจำคุก นายบุญทรง 42 ปี และนายภูมิ สารผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ 36 ปี พร้อมพวก ในคดีระบายข้าวจีทูจี

โดยนายนรินทร์ เปิดเผยว่า ได้ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายบุญทรงแล้ว แต่กรมราชทัณฑ์ยังไม่อนุญาต เพราะได้อนุญาตให้เข้าเยี่ยมในเวลาราชการจันทร์-ศุกร์ ซึ่งญาติสามารถเจ้าเยี่ยมได้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 20 นาที ทั้งนี้ในเรื่องแนวทางการต่อสู้คดีและการประกันตัวจะหารือกับทางนายบุญทรงก่อน โดยตนจะเดินทางมาอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 28 ส.ค.60

ด้านนายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาคดีระบายข้าวจีทูจีทั้งหมดที่ถูกคุมขังในคืนแรก มีอาการเครียดตามปกติ เพราะบางคนยังปรับตัวไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้เครียดมาก เพราะข้างในมีคนรู้จักคือ นายจตุพรพรหมพันธุ์ ประธานนปช. ที่ได้เข้ามาอยู่ในเรือนจำก่อนหน้านี้ โดยทางเรือนจำได้จัดให้อยู่ในแดนแรกรับ และจัดให้นอนห้องละ 2-3 คน ส่วนเรื่องการดูแลความปลอดภัยนั้น ได้กำชับไปยังผู้บัญชาการเรือนจำแล้วว่าให้หลีกเลี่ยงการเจอคู่กรณีที่มีความคิดเห็นต่างทางการเมือง ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น ทางเรือนจำมีระเบียบขั้นตอนในการปฏิบัติอยู่แล้ว โดยดูแลเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษ

ขณะที่นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการควบคุมตัวนายบุญทรง และนายภูมิ กับพวกซึ่งเป็นผู้ต้องขังคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ว่า วานนี้ (26 ส.ค.) เวลา 10.00 น. ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯได้ส่งตัวนายบุญทรงและนายภูมิ กับพวกรวม 7 คน เนื่องจากต้องโทษสูงเกินอำนาจการควบคุมของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปควบคุมตัวยังเรือนจำกลางคลองเปรมแล้ว

สำหรับคืนแรกของนายบุญทรงขณะถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯผ่านไปได้ด้วยดีและไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง โดยได้ควบคุมตัวอยู่ภายในแดนแรกรับ และจากการให้นักจิตวิทยาพูดคุยกับนายบุญทรงนั้น พบว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และคาดว่าคงใช้เวลาอีกสักพักนายบุญทรงจะสามารถปรับตัวในการใช้ชีวิตอยู่ภายในเรือนจำได้

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นางปอยใจระพี เตริยาภิรมย์ ภรรยานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 42 ปี คดีทุจริตระบายข้าวหรือจีทูจี ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี และนางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และเจ้าหน้าที่รวม 3 ราย

ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีกรมบังคับคดีใช้มาตรการทางปกครองอายัดทรัพย์ของนายบุญทรง หลายรายการ แต่บางส่วนเป็นทรัพย์สินของนางปอยใจระพีด้วย โดยมีบัญชีของปอยใจระพี ที่ถูกอายัดรวม 2 บัญชี ทำให้เกิดความเสียหาย ศาลได้ตรวจฟ้องแล้ว นัดโจทก์มาฟังคำสั่งวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 09.00 น. ว่าศาลจะรับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้องโจทก์หรือไม่

โดยนายนรินทร์ สมนึก ทนายความของนายบุญทรง กล่าวว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำสั่งคดีดังกล่าวจริงในวันที่ 29 ส.ค.นี้เพื่อรับฟังว่า ศาลจะรับคดีไว้เพื่อไต่สวนมูลฟ้องโจทก์หรือไม่ โดยวันดังกล่าวนางปอยใจระพี ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปด้วยตนเอง โดยมีทีมทนายความรับผิดชอบดูแล อาจเดินทางมารับฟังคำสั่งแทน

ย้าย "บุญทรง-ภูมิ" ไปเรือนจำคลองเปรม