กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตั้งคณะกรรมการ รวบรวมหลักฐาน เสนออัยการเตรียมยื่นอุทธรณ์สู้คดีเกาะปอดะ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ กลางเดือนนี้ ก่อนครบกำหนัดวันที่ 27 กันยายน 2560
จากกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ฟ้องร้องเอกชน ในข้อหาบุกรุกพื้นที่เกาะปอดะ และศาลฎีกาตัดสินให้กรมอุทยานฯชนะคดี ในปี 2554 ให้เอกชนรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ นับเป็นคดีแรกที่กรมอุทยานฯ ชนะคดีนำพื้นที่กลับมาเป็นของรัฐได้
จากนั้นในปี 2557 เจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ที่พักรีสอร์ท ของเอกชนรวมกว่า 50 หลัง และเข้ามาดูแลบริหารจัดการพื้นที่
กระทั่งปี 2558 เอกชนรายเดิมนำเอกสาร ส.ค.1 พื้นที่ 71 ไร่มายื่นฟ้องต่อศาลว่า เป็นผู้ครอบครองทำประโยชน์บนพื้นที่เกาะปอดะ ก่อนประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
และวันที่ 25 กรกฎาคม 2560 ศาลจังหวัดกระบี่มีคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้เอกชนเป็นผู้ชนะคดีในคดีแพ่ง การครอบครองพื้นที่บนเกาะปอดะ พื้นที่ จำนวน 71 ไร่
นายณัฐพล รัตนพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนกิจการทางทะเลกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้รับสำเนาคำพิพากษาของศาลจังกระบี่แล้ว เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา
และขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการ เพื่อรวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เสนอพนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ เตรียมยื่นอุทธรณ์คดีนำเกาะปอดะ กลับมาเป็นสมบัติของแผ่นดิน ประมาณกลางเดือนกันยายนนี้ ก่อนวันครบกำหนดในวันที่ 27 กันยายน
โดยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ 3 ประเด็น คือ 1.เอกสารที่เอกชนนำมาแสดงไม่ตรงกับพื้นที่ โดยเอกสารหรือ ส.ค.1 ที่เอกสารนำมาแสดงระบุเกาะปอดะอยู่ในหมู่ที่ 2 แต่ข้อเท็จจริงที่ศาลฎีกาเคยพิจารณาตัดสินให้กรมอุทยานฯ ชนะหลังจากต่อสู้มา 26 ปี เกาะปอดะ ตั้งอยู่หมู่ที่ 3
ที่สำคัญหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ภาพถ่ายทางอากาศ เมื่อปี 2510 หลักฐานการแบ่งเขตปกครอง เพื่อยืนยันว่า พื้นที่เกาะปอดะอยู่ในเขตหมู่ 3 ตำบลอ่าวนาง ไม่ใช่หมู่ 2 ตามที่เอกชนนำมายื่นฟ้อง และตั้งข้อสังเกตว่า เอกสารของเอกชน อาจเป็น ส.ค.1 บินมาจากที่อื่น
2.การใช้ประโยชน์บนเกาะ ทั้งนี้ จากการแปลภาพถ่ายทางอากาศก่อนปี 2510 พบว่า ไม่มีการทำประโยชน์ใดๆ ในพื้นที่ สภาพของเกาะปอดะ มีสภาพเป็นป่า ไม่มีต้นมะพร้าวอย่างปัจจุบัน และ 3. ส.ค.1 ที่เอกชนนำมาแสดงทับซ้อนกับที่ศาลฎีกาเคยตัดสินไปแล้ว
นอกจากนี้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังมีเอกสารหลักฐานที่เตรียมไว้สู้คดีให้ถึงที่สุด โดยในสัปดาห์หน้า จะมีการประชุมคณะกรรมการสู้คดีอุทธรณ์ ครั้งสุดท้ายก่อนยื่นอุทธรณ์ประมาณกลางเดือนกันยายนนี้