คนขับรถทัวร์โดยสาร สายสุราษฎร์ฯ-กรุงเทพฯ ไม่พอใจคนขับรถพ่วงขับรถปาดหน้า และ พยายามเบรคกระชั้นชิดเพื่อให้ชนท้าย ใช้ทั้งเหล็กแป๊บ และ ขวดขว้างใส่กระจกทำให้แตกเสียหาย

ตำรวจภูธรหลังสวน นำกำลังไปตั้งจุดสกัด หน้าตลาดอวยชัย3 อ.หลังสวน จ.ชุมพร หลังได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ 191 ชุมพร ว่ามีเหตุปาสิ่งของใส่กระจกรถ บนถนนเอเชีย 41 ในพื้นที่ อ.ละแม มุ่งหน้ามายัง อ.หลังสวน

ต่อมามี รถทัวร์โดยสารปรับอากาศสายสุราษฏร์ธานี – กทม.ของบริษัท กรุงสยามทัวร์ ยี่ห้อ สแกนเนีย ทะเบียน 15-1826 กทม. ตรงตามที่ได้รับแจ้งว่า เป็นคู่กรณีขับมา เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุด พบว่า มี นายพิมล พรหมเกิด อายุ 57 ปี เป็นคนขับ และมี นายเรวัต วันทวงศ์ อายุ 27 ปี เป็นเด็กประจำรถ โดยมีผู้โดยสารมาจำนวน 30 คน

จากการสอบถาม นายพิมล คนขับรถทัวร์ ให้การว่า ขณะที่ตนเองกำลังขับรถทัวร์ เข้าเขต บ้านคันธุลี อ.ท่าชนะ เพื่อมุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ ได้มีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ มี นายวันชัย บุญเลิศ อายุ 34 ปี เป็นคนขับ ได้ขับเข้ามาเบียดและพยายามปาดหน้า และรถพ่วงยังพยายามเบรกรถเพื่อให้รถทัวร์ชนท้าย เป็นระยะทางมากกว่า10 กิโลเมตร สร้างความแตกตื่นแก่ ผู้โดยสารที่ส่งเสียงร้องด้วยความหวาดเสียว

จนกระทั่งขับปาดหน้ากันไปมา จนเข้าเขต อ.ละแม นายเรวัต(เด็กรถทัวร์) จึงได้ใช้ ท่อแปปเหล็กขว้างใส่รถบรรทุกพ่วง เพื่อให้หยุดการขับรถในลักษณะดังกล่าว และ เมื่อรถทัวร์ มาจอดที่จุดตรวจรถทัวร์ของบริษัท ที่สี่แยก ไฟจราจร อ.ละแม นายเรวัติ (เด็กรถทัวร์) ได้ใช้ขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ขว้างเข้าใส่ กระจกข้างด้านซ้ายของรถพ่วงอีกครั้ง จนทำให้กระจกแตกดังกล่าว

ส่วนการสอบปากคำ นายวันชัย (คนขับรถพ่วง) ให้การว่า ขณะขับรถบรรทุกพ่วง เพื่อนำขี้ยางพารา จาก จ.สุราษฏร์ธานี ไปส่ง ที่ จ.จันทบุรี ด้วยความรีบจึงได้พยายามขับแซงรถทัวร์ คันดังกล่าว แต่ถูกรถทัวร์เบียด จนเกิดปาดหน้ากันไปมาหลายครั้ง จนในที่สุดก็ถูกคู่กรณีใช้เหล็กแปป และขวดขว้างใส่

เบื้องต้น ตำรวจจึงได้คุมตัวทั้งสองไปพูดคุยกันที่ สถานีตำรวจภูธรหลังสวน โดย นายเรวัติ (เด็กรถทัวร์) ยอมชดใช้ค่าเสียหายค่ากระจกรถ จำนวน 3,000 บาท ทั้งนี้ตำรวจได้กล่าวตักเตือนทั้งสองฝั่ง ให้ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง และ ไม่ให้ใช้อารมณ์เนื่องจากจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารได้