กลุ่มลูกค้าร้านช่างสักชื่อดังเมืองลำพูน นัดกันขึ้นโรงพักแจ้งความเอาผิดช่างสัก หลังจากสักแล้วเป็นแผลพุพอง ขณะที่ช่างสัก รับใช้น้ำยาฆ่าเชื้อผิดยี่ห้อ แต่พร้อมช่วยเหลือค่ายา
กลุ่มผู้เสียหาย จากการสัก แล้วเกิดแผลพุพอง เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรนิคมอุสาหกรรมภาคเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน พร้อมให้ตำรวจดูร่องรอยอาการอักเสบจากรอยสักบริเวณแขน และขา โดยระบุว่า เกิดจากการไปใช้บริการสัก ที่ร้านแห่งหนึ่ง ที่ ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองลำพูน
โดยผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อสักเสร็จประมาณ 3-7 วัน ก็มีอาการผิดปกติ เช่น ผื่น คัน และอักเสบ บริเวณแขนขาที่สัก ซึ่งจากการสังเกตุขณะทำการสัก พบว่า ทางช่างสัก หรือ เจ้าของร้าน ไม่ได้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ ก่อนจะลงมือสัก จึงมั่นใจว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้น
ขณะที่ผู้เสียหายคนอื่นๆ เล่าว่า เป็นคนชื่นชอบศิลปะบนเรือนร่างอยู่แล้ว โดยมีน้องที่รู้จักกันชักชวนมาสักที่ร้านดังกล่าว แต่เมื่อไปใช่บริการแล้ว ก็มีตุ่มน้ำสีแดงใสเกิดขึ้นบริเวณที่สัก จึงได้ตัดสินใจไปพบแพทย์
ซึ่งเบื้องต้นทางแพทย์ก็วินิจฉัย ว่า น่าจะเกิดจากสีที่ใช้สักเป็นสีชนิดเดียวกับ "สีปริ้นเตอร์" พร้อมให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้าเคยมีคนไข้มารักษาด้วยอาการเช่นนี้จำนวน 2 ราย แต่อาการหนักเพราะแผลเน่า
ด้าน เจ้าของร้านสัก ก็ยอมรับว่า ซื้อยาฆ่าเชื้อมาผิดยี่ห้อ ปกติใช้ยาฆ่าเชื้ออย่างดี และ ที่ร้านมียาแก้แพ้ให้ลูกค้าอยู่แล้ว แต่ลูกค้าบางคนอาจแพ้น้ำยาฆ่าเชื้อ ซึ่งตนเองก็พร้อมที่จะรับผิดชอบค่ารักษา และค่ายาต่างๆ ให้กับทางผู้เสียหายทุกคน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า มีผู้เสียหายอีกหลายคนที่มีอาการผิวหนังอักเสบหลังจากการสัก เตรียมเข้าแจ้งความกับตำรวจ ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้เสียหาย และเตรียมเรียกเจ้าของร้านสักมาให้ปากคำด้วย