เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังมีกลุ่มชาวบ้าน ปิดทางเข้าออกภายในสวนปาล์มน้ำมันของบริษัทเอกชน เรียกร้องให้กรมป่าไม้ยกเลิกการอนุญาตสัมปทานปลูกปาล์มน้ำมัน
พันตำรวจโทสมบัติ แสวงสุข รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปลายพระยา จังหวัดกระบี่ พร้อม เจ้าหน้าที่ ฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมกว่า 200 นาย ลงพื้นที่ตรวจค้นที่พัก ยานพาหนะ หาสิ่งของผิดกฎหมาย และตรวจสอบประวัติกลุ่มเกษตรกรสรรค์สร้างสังคมใหม่ที่เข้าปิดทางเข้าออก ห้ามคนงานบริษัทเก็บเกี่ยวผลปาล์ม
พร้อมสร้างที่พักชั่วคราวกว่า50หลัง รวมกว่า100คน ภายในสวนปาล์มน้ำมันพื้นที่ 2,500ไร่ ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งมานานกว่า1เดือนเพื่อเรียกร้องให้กรมป่าไม้ยกเลิกการอนุญาตสัมปทานปลูกปาล์มน้ำมัน หลังจากการตรวจสอบพบว่าหนังสืออนุญาตให้ใช้พื้นที่จากนิคมสหกรณ์อ่าวลึกเมื่อปี 2537อาจออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
พันตำรวจโทสมบัติ แสวงสุข รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปลายพระยา กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อแจ้งให้กลุ่มชาวบ้านออกจากพื้นที่ เนื่องจากผลการตรวจพื้นที่ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า บริษัทเอกชน ไม่ได้ทำประโยชน์เกินพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตสัมปทาน
ทั้งนี้ บริษัทเอกชนดังกล่าว ได้ครอบครองพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันรวมกว่า 1 หมื่น 5 พันไร่ เป็นพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตสัมปทานประมาณ 8,500 ไร่ และได้รับอนุญาตใช้พื้นที่จากนิคมสหกรณ์อ่าวลึก 2,500 ไร่ พื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ครอบครองกว่า 2,800 ไร่ และที่ผ่านมานิคมสหกรณ์อ่าวลึกได้แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มชาวบ้านดังกล่าวแล้ว ซึ่งศาลจังหวัดกระบี่ อนุมัติ หมายจับกุมตัวกลุ่มชาวบ้านแล้วกว่า 10 คน หากชาวบ้านไม่ปฏิบัติตาม จะถูกควบคุมตัวดำเนินคดีข้อหาบุกรุกอสังหาริมทรัพย์
ขณะที่นายชูวงศ์ มณีกุล ที่ปรึกษาด้านกฎหมายกลุ่มเกษตรกรสรรค์สร้างสังคมใหม่ wfhยื่นหนังสือถึงศาลปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ยกเลิกการอนุญาตให้บริษัทเอกชนดังกล่าว ทำประโยชน์ในพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน ที่กลุ่มชาวบ้านปิดทางเข้าออก ห้ามคนงานบริษัทเข้าเก็บเกี่ยวผลปาล์ม ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา แต่พื้นที่ที่บริษัทเอกชนได้รับอนุญาต อยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลคีรีวงศ์ อำเภอปลาพระยา