อธิบดีดีเอสไอ ยืนยันไม่ได้ตั้งธงจ้องเล่นงาน “โอ๊ค พานทองแท้”คดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย เผยสัปดาห์หน้าคาดว่า จะมีความชัดเจนในการแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ด้าน"โอ๊ค พานทองแท้"โพสต์ข้อความ ชี้เลือกปฎิบัติ หวังตั้งธงยัดเยียดความผิดให้

 

"โอ๊ค"ติงถูกเลือกปฏิบัติ จงใจยัดเยียดข้อหาฟอกเงินคดีปล่อยกู้กรุงไทย

วานนี้ (8ก.ย.) นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม โดยระบุว่า “ไม่มีความเลวร้ายใด ที่จะยิ่งไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือในนามของกระบวนการยุติธรรม” เป็นคำกล่าวของ มงแต็สกีเยอ ที่คุณพ่อผมเพิ่งนำมาทวิตไปเมื่อวันก่อนครับ

ขณะนี้ได้มีเอกสารหลุดอีกฉบับหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องของตัวผมโดยตรง ซึ่งเป็นของอดีตรองอธิบดีดีเอสไอ ที่ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมว่า ได้รับคำสั่งให้แจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีกับตนเอง  ทั้งที่อดีตรองอธิบดีดีเอสไอได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ผู้สั่งการทราบแล้วว่า ธุรกรรมของตนเองนั้น ไม่ได้มีส่วนใดที่ผิดกฎหมาย จึงไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีได้ แต่กลับเป็นเหตุให้ต้องถูกปลดออกจากตำแหน่งรองอธิบดีฯ ไปนั่งตบยุงที่สำนักนายกรัฐมนตรี

นายพานทองแท้ระบุต่อว่า การจะตรวจสอบคดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีการกู้เงินนับหมื่นล้าน แทนที่จะไปตรวจสอบองค์กรที่ได้รับผลประโยชน์ก้อนใหญ่ หรือรายชื่อนายทหาร  นายตำรวจ และบุคคลองค์กรอื่นๆ อีกกว่า 300 ธุรกรรม

แต่กลับมาสั่งการกับผู้ปฏิบัติแบบเน้นๆ ให้จ้องเอาผิดกับธุรกรรมทางการเงินจำนวน 10 ล้าน ซึ่งเท่ากับ 0.1 % ของจำนวนเงินทั้งหมด เพียงเพราะว่าเป็นธุรกรรมทางการเงินของลูกอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตัวเองตั้งธงเอาไว้แล้วว่า จะต้องยัดเยียดความผิดให้ได้ เรื่องแบบนี้ ถ้าไม่เกิดกับลูกหลานตัวเองบ้าง ผู้มีอำนาจที่สั่งการกันมาเป็นทอดๆ อาจจะยังไม่รู้สึกหรอกครับ แต่ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งเวรกรรมจะตามทัน ถ้าไม่เชื่อใน”กฎแห่งกรรม” ก็เชิญผู้มีอำนาจสั่งการหาเรื่องกันต่อไปเถอะครับ วันไหนกรรมตามสนองลูกหลานตัวเองบ้าง ก็ขออย่าได้โอดครวญแล้วกัน”

 

"เอม พินทองทา"โพสต์ภาพถ่ายคู่พี่ชาย เพื่อให้กำลังใจ

ขณะที่"เอม"พิณทองทา ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์รูปคู่กับนายพานทองแท้ พี่ชาย ผ่านทางอินสตราแกรม หลังจากมีกระแสข่าวว่า ดีเอสไอมีมติแจ้งข้อหาร่วมฟอกเงิน กับนายพานทองแท้ ในคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กับกลุ่มกฤษฎามหานคร พร้อมแคปชั่นว่า“เค้ารักเตงนะ #ไม่ค่อยจะหวานกันเท่าไหร่แต่จุดนี้อยากบอก…รักและเคียงข้างเสมอ"เพื่อให้กำลังใจพี่ชายของตัวเอง

 

ดีเอสไอ เผยสัปดาห์ชัดแจ้งข้อหา"โอ๊ค พานทองแท้"พร้อมพวกคดีฟอกเงิน

ด้านพันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงการสอบสวนคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับกลุ่มกฤษดามหานครว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนในเรื่องการร้องทุกข์กล่าวโทษ นายพานทองแท้ กับพวก จากทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่จะมายื่นเรื่องอย่างเป็นทางการกับดีเอสไอในประเด็นวงเงิน 10 ล้านบาท และวงเงิน 26 ล้านบาท ว่าเกี่ยวข้องกับบุคคลใดอย่างไรบ้าง ซึ่งในที่ประชุมที่ผ่านมาทางปปง.ก็ได้มาประชุมร่วมและมีมติร่วมกันไปแล้ว

ดีเอสไอขอยืนยันว่าทำคดีนี้ตามพยานหลักฐานไม่ได้กลั่นแกล้งหรือตั้งธงจ้องเล่นงานใคร ทุกอย่างว่ากันไปตามพยานหลักฐาน  มีการทำงานในรูปแบบคณะกรรมการ มีอัยการ ร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวน พยานส่วนใหญ่เป็นพยานเอกสารที่ปรากฎชัดและได้มาอย่างถูกต้อง ดังนั้นทุกอย่างก็ว่ากันไปตามขั้นตอน

โดยดีเอสไอไม่ได้เฉพาะเจาะจงเร่งรัดว่าเป็นนายพานทองแท้ หรือบุคคลใด เพราะคดีนี้ก็ทำตามขั้นตอนมาตลอด แต่สาเหตุที่ต้องรีบดำเนินการ เพราะว่าคดีจะหมดอายุความในปี 2561  พนักงานสอบสวนจึงต้องเข้าไปเร่งรัด ให้ทันเวลาต่อการทำงานคดี ซึ่งเป็นขั้นตอนการทำงานปกติ

 

อัยการพิเศษคาดสรุปสำนวนปล่อยกู้กรุงไทยเสร็จภายใน ก.ย.นี้

ด้านนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายสอบสวน 3 กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีว่า คาดว่า ภายในสัปดาห์หน้าพนักงานสอบสวนน่าจะสรุปผลการสอบปากคำเพิ่มเติมส่งคณะพนักงานสอบสวน  ก่อนสรุปสำนวนคดี ร่วมกันฟอกเงินจากการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ภายในสิ้นเดือนนี้

โดยประเด็นที่ให้สอบสวนเพิ่มเติมนั้นมีทั้งเรื่องความสัมพันธ์ของกลุ่มบุคคลที่สำคัญ คือประเด็นผู้เกี่ยวข้องในการรับเงินมีเจตนากระทำผิดหรือไม่  รู้หรือไม่ว่าเงินที่รับมาจากกลุ่มคนในตระกูลกฤษดาธานนท์ นั้นเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด  คาดว่าจะประสานออกหมายเรียกกลุ่มบุคคลเข้ารับทราบและแก้ข้อกล่าวหาได้ภายในเดือนกันยายนนี้

โดยพนักงานสอบสวนต้องเร่งสอบสวน เพื่อสรุปสำนวนให้ทัน เพราะคดีจะหมดอายุความกลางปี 2561 ก่อนส่งให้อัยการพิจารณาความเห็นสมควรฟ้องหรือไม่

สำหรับกลุ่มบุคคลที่คาดว่าพนักงานสอบสวนจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ในส่วนการฟอกเงินวงเงิน10ล้านบาท มีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องเพียงคนเดียว

ในส่วนวงเงิน 26 ล้านบาท มีนางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ชินวัตร นายวันชัย หงส์เหินสามีนางกาญจนาภา นางเกศินี จิปิภพ มารดานางกาญจนาภาเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนจะมีความเห็นสั่งฟ้องใครบ้างนั้นเป็นอำนาจของอัยการจะพิจารณา

"โอ๊ค"ติงถูกเลือกปฏิบัติ จงใจยัดเยียดข้อหาฟอกเงิน