สวนดุสิตโพล เผย ผลสำรวจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีฟังคำพิพากษาจำนำข้าวกระทบ พรรคเพื่อไทยโอกาสตั้งรัฐบาลน้อยลง และทำให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อการเมืองไทย ประเทศเสียชื่อเสียง การเมืองเสียหาย ขณะที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เชื่อ คนในประเทศช่วยนางสาวยิ่งลักษณ์ หลบหนี เร่งหาตัวคนขับเบนซ์มาสอบสวน และเตรียมแถลงข่าวความคืบหน้าคดี เร็วๆนี้

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการติดตามเส้นทางและบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนี ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกมาหมายจับ ที่ไม่มาฟังคำพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าวเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ภายหลังกล้องวงจรปิดจับภาพสุดท้ายได้บริเวณด่านทหาร จังหวัดสระแก้ว ว่า ความคืบหน้าขณะนี้ยังไม่รู้ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ออกไปได้อย่างไร เพราะกำลังดำเนินการติดตามตัวคนขับรถเบนซ์ คันดังกล่าวมาสอบสวน ว่าช่วยเหลือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ออกไปได้เส้นทางใด

ส่วนการชี้แจงอย่างเป็นทางการนั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนให้เกิดความชัดเจนก่อนคงชี้แจงในรายละเอียดต่อไปขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมาก เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนพา นางสาวยิ่งลักษณ์ ออกนอกประเทศ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับคนในประเทศเป็นผู้ช่วยเหลือ ส่วนคนที่อยู่นอกประเทศจะช่วยเหลือหรือไม่นั้น ไม่ทราบ

ทั้งนี้ ย้ำว่า รัฐบาล และ คสช.ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ นางสาวยิ่งลักษณ์แต่อย่างใด

ขณะที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี พลเอกประวิตร ระบุว่าการติดตามตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพสุดท้ายได้ที่บริเวณด่านทหาร จังหวัดสระแก้ว และเตรียมจะแถลงข่าวเร็วๆนี้ ว่า เพื่อให้สังคมมั่นใจว่ารัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ คสช.จะต้องตั้งคณะกรรมตรวจสอบว่าใครบ้างจะต้องรับผิดชอบกับการหลบหนีครั้งนี้ และใครบ้างที่ช่วยเหลือ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่หรือใครก็ตามที่ปล่อยให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ หนีออกไป จะด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ต้องนำตัวมาลงโทษให้ได้

ดังนั้นคสช.จะต้องตอบสังคมให้ได้ว่าปัญหาเกิดจากอะไร เหตุใดจึงหนีไปได้ เพราะทุกคนยังคลางแคลงใจสงสัยอยู่

ส่วนความเคลื่อนไหวที่จังหวัดสระแก้ว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ด่านความมั่นกองกำลังบูรพา อำเภอวัฒนานคร หลังกล้องวงจรปิด จับภาพภาพรถเบนซ์ของนางสาวยิ่งลักษณ์ได้

โดยจากการแกะรอยเส้นทางรถเบนซ์ พบว่า หลังวิ่งผ่านด่านทหารแล้ว ไม่ได้วิ่งมาทางสี่แยกวัฒนานคร เนื่องจากกล้องวงจรปิดที่สี่แยกวัฒนานคร ไม่มีรถเบนซ์วิ่งผ่าน คาดว่า หลังรถเบนซ์คันดังกล่าววิ่งผ่านด่านความมั่นคงของทหารแล้ว มาเลี้ยวขวาเข้าไปเส้นทางอำเภอคลองหาด ตรงหน้าอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร

ผู้สื่อข่าว ได้เข้าสอบถามแม่ค้าที่เปิดร้านใกล้ๆ สี่แยกคลองมะนาว ว่า เมื่อคืนวันนี้ 23 มีรถเบนซ์ วิ่งผ่านมาบ้างหรือไม่ แม่ค้าขายไก่ย่างบอกว่า บริเวณนี้ พอค่ำมืดจะเปลี่ยวมาก จึงไม่มีใครพบเห็น

ส่วนเส้นทางมุ่งหน้าไปชายแดนด้านอำเภอคลองหาด ซึ่งเป็นแนวชายแดนที่กลุ่มค้าอาวุธสงครามมักใช้เส้นทางนี้ ชาวบ้านต่างยืนยันว่า ในคืนของวันที่ 23 สิงหาคม 2560 ไม่พบเห็นรถเบนซ์ผ่านเข้าไปที่ชายแดนแต่อย่างใด

ขณะที่ พันตำรวจเอกฐาปนนท์ หน่องพงษ์ ผู้กำกับการ ตำรวจตระเวนชายแดน12 อรัญประเทศ กล่าวว่า หลังจากมีข่าวนางสาวยิ่งลักษณ์ อหลบหนีทางพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยเฉพาะกิจ กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ก็ได้เพิ่มมาตรการตรวจเข้าการเข้าออกบุคคลและยานพาหนะพร้อมกับสั่งการออกลาดตระเวนตามถนนศรีเพ็ญ ทั้งทางเท้า และสายตรวจจักรยานยนต์ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ นางสาวยิ่งลักษณ์ เปิดเผยถึงการเดินทางไปรับฟังการอ่านคำพิพากษาลับหลังในคดีโครงการรับจำนำข้าว วันที่ 27 กันยายน นี้ ว่า ทางทีมทนายความต้องเดินทางไปอยู่แล้วตามหน้าที่ โดยรับฟังคำพิพากษาอย่างเดียว ไม่มีอะไรเพิ่มเติม

และจนถึงขณะนี้ ทางทีมทนายความยังไม่ได้รับการติดต่อจาก นางสาวยิ่งลักษณ์ แต่อย่างใด

ส่วนความคืบหน้าเรื่องอาการป่วยน้ำในหูไม่เท่ากัน ของ นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นอย่างไรบ้างนั้น นายนรวิชญ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ขอตอบ เป็นความลับของลูกความ เป็นเรื่องที่แจ้งต่อศาลและศาลมีคำสั่งตามรายงานแล้ว

ไปดูผลสำรวจความคิดเห็น จาก "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ 1,187 คน หลังนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่มาฟังคำตัดสินคดีจำนำข้าว และมีกระแสข่าวว่าหลบหนีออกนอกประเทศ

โดยถามว่า คิดว่าสถานการณ์การเมืองไทยหลังจาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่มาฟังคำพิพากษาของศาล เป็นอย่างไร ร้อยละ 77.34 ระบุว่า ต้องรอดูอนาคตการเมืองไทยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป รองลงมา ร้อยละ 72.54 ทุกพรรคทุกฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็น เคลื่อนไหวมากขึ้น

ส่วนร้อยละ 66.64 ระบุว่า ยังมีคลื่นใต้น้ำ มีความขัดแย้ง แบ่งพรรคแบ่งพวก ร้อยละ 65.37 เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เล่นเกมการเมือง และร้อยละ 50.80 ระบุว่า รอให้มีการจัดการเลือกตั้ง ประชาชนได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง

เมื่อถามว่า จากกรณี นางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่มาฟังคำพิพากษาของศาล มีผลกระทบต่อการเมืองไทยในภาพรวมในด้านดีอย่างไรบ้าง

ร้อยละ 82.31 ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ลดการปะทะ ร้อยละ 70.35 การเคลื่อนไหวลดลง ไม่มีชุมนุมประท้วง ร้อยละ 68.41เห็นว่า สถานการณ์ทางการเมืองเย็นลง ไม่ตึงเครียด ร้อยละ66.13 พรรคการเมืองอื่น ๆ มีโอกาสมากขึ้น และ 53.66 รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น

เมื่อถามถึงผลกระทบด้านลบ ร้อยละ 79.44 ประเทศเสียชื่อเสียง การเมืองเสียหาย ร้อยละ 72.45 รัฐบาลถูกจับตามอง โดนจ้องจับผิด ร้อยละ 69.33 ไม่เป็นประชาธิปไตย สองมาตรฐาน ร้อยละ64.95 นักการเมืองขาดความน่าเชื่อถือ และ ร้อยละ 61.50 ทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้น

เมื่อถามว่า จากกรณีนางสาว.ยิ่งลักษณ์ ไม่มาฟังคำพิพากษาของศาล มีผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยอย่างไร

ร้อยละ 80.88 เห็นว่าควร หาผู้นำใหม่ เปลี่ยนแกนนำ ร้อยละ 75.40 หาเสียงลำบาก โอกาสตั้งรัฐบาลน้อย ร้อยละ 70.18 เกิดการแบ่งกลุ่มภายในพรรค

ร้อยละ 60.40 อาจมีผลต่อคะแนนนิยม ฐานเสียง และ ร้อยละ 58.80 ต้องเปลี่ยนนโยบาย ยุทธศาสตร์

และเมื่อถามถึงผลกระทบพรรคประชาธิปัตย์และพรรคอื่นๆ ร้อยละ 71.10 เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับประชาชน ร้อยละ 67.73 เห็นว่าเป็นคดีตัวอย่าง ทำให้ไม่กล้ากระทำผิด

ร้อยละ 63.86 ต้องปรับเปลี่ยนแนวทางในการหาเสียง ร้อยละ 51.31 ต้องปรับตัว สร้างความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น และ ร้อยละ 48.10 มีโอกาสชนะการเลือกตั้งมากขึ้น