ชาวบ้านร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน หลังเดือนร้อนไม่มีน้ำใช้ทำการเกษตร หลังท่อส่งน้ำ ที่สร้างด้วยงบกว่า 20 ล้าน ใช้การไม่ได้ ขณะที่ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาราชบุรี ชี้แจง ท่อใช้การได้ อยู่ระหว่างส่งมอบให้พื้นที่ดูแล และรอความพร้อมชาวบ้านจ่ายค่าไฟทั้งหมด
ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลวังมะนาว อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี พาผู้สื่อข่าวดู บริเวณโรงสูบน้ำ ที่กรมชลประทานสร้างขึ้น เมื่อปี 2555 เพื่อใช้สูบน้ำจากคลองชลประทาน ส่งให้กับชาวบ้านทำการเกษตร ด้วยงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท แต่หลังสร้างเสร็จ ก็ไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้เกษตรกรเดือนร้อน ไม่มีน้ำใช้
โดยที่โรงสูบน้ำ ถูกปิดไม่มีการใช้งาน ไม่มีป้ายโครงการติดไว้ นอกจากนี้ ตามแนวท่อส่งน้ำบางช่วง มีร่องรอยแตกร้าว ส่วนปลายท่อที่ส่งไปยังพื้นที่การเกษตร ก็มีลักษณะเล็ก
นายมี คำขัน อายุ 50 ปี ตัวแทนเกษตรกร บอกว่า หลังโครงการนี้สร้างขึ้น ชาวบ้านก็ยังไม่เคยได้ใช้ประโยชน์ เคยเห็นน้ำออกมาเพียง 5 นาที ท่อก็แตก เป็นแบบนี้มาตลอด ที่ผ่านมา เคยไปร้องศูนย์ดำรงธรรม และอีกหลายหน่วยงาน
ซึ่งมีหน่วยงานราชการมาตรวจสอบ แล้วบอกว่า จะให้ชลประทานมาทำ หลังจากนั้น ก็หายเงียบไปอีก 3-4 เดือน จนตอนนี้เดือนร้อนไม่มีน้ำใช้ในการเกษตร ต้องนำน้ำจากมูลหมูมาใช้แทน เพื่อรอน้ำฝน เพราะไม่มีท่อส่งน้ำเข้าที่นา
ชาวบ้าน บอกอีกว่า เคยสอบถามกับชลประทานว่า ทำไมถึงสูบน้ำไม่ได้ ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่มีงบมาซ่อมแซม ส่วนเรื่องค่าไฟที่ต้องใช้สำหรับสูบน้ำนั้น ชาวบ้านก็ไม่ได้มีปัญหาที่จะจ่าย เพียงแต่ขอให้ซ่อมท่อให้เสร็จ แล้วสูบน้ำส่งมาให้ชาวบ้านได้
ขณะที่นายนเรศวร์ วัฒนวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาราชบุรี ฝั่งขวา สำนักงานชลประทานที่ 13 กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า โรงสูบน้ำนี้ สามารถใช้งานได้ทั้งหมดแล้ว
แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งมอบให้กับท้องถิ่นไปดำเนินการต่อ และเดิมเคยมีปัญหาเรื่องใช้ไฟฟ้าราคาสูง ก็ได้ตกลงกับการไฟฟ้าไปแล้วว่า ให้เรียกเก็บค่าไฟ แบบภาคการเกษตร
อีกทั้งเวลานี้ ก็รอความพร้อมของเกษตรกรทุกรายในหมู่ 7 ที่พร้อมจ่ายค่ากระแสไฟฟ้าด้วย เพราะค่าไฟฟ้าที่ใช้ ชาวบ้านต้องเป็นผู้รับผิดชอบกันเอง โดยหารเฉลี่ยแต่ละหลังคาเรือน พร้อมยืนยันว่า มีการซ่อมแซมท่อที่ชำรุด ให้ใช้งานได้แล้วเช่นกัน