เจ้าหน้าที่รักษาป่า จังหวัดบุรีรัมย์ นำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกปลูกสร้างที่อยู่อาศัยและร้านค้า หน้าท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ในเขตป่าสงวนโคกโจด 8 ราย หลังมีการประกาศให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่บุกรุกแล้ว แต่ยังเพิกเฉย
นายสรรเพ็ชร เรืองรอง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า บร.5 (ลำนางรอง) จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนาย อรรคณี จารัตน์ หัวหน้าสวนป่าโคกโจด องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) นำหลักฐาน และรูปถ่าย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้บุกรุก ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย และร้านอาหาร บริเวณหน้าท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโคกโจด จำนวน 8 ราย ที่สถานีตำรวจภูธสตึก
ก่อนหน้านี้ ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 26 รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการทวงคืนพื้นที่บริเวณดังกล่าวแล้ว และมีการติดประกาศแจ้งให้ผู้บุกรุกปลูกสร้าง บ้านเรือน และร้านค้าทั้งหมด ออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน นับจากวันติดประกาศ แต่ผู้บุกรุกทั้ง 8 ราย ยังเพิกเฉย
เจ้าหน้าที่ จึงแจ้งความดำเนินคดีตามขั้นตอน ซึ่งตำรวจจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนจะเรียกผู้ที่ถูกกล่าวหามาสอบสวน และรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
นายสรรเพ็ชร ระบุว่า จากข้อมูล พบว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโคกโจด มีเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 20,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล คือ ตำบลร่อนทอง / ตำบลศรีสตึก / ตำบลเมืองแก / และ ตำบลนิคม
ที่ผ่านมา ได้ถูกกลุ่มนายทุน ข้าราชการ และชาวบ้าน เข้าไปบุกรุกครอบครองทำประโยชน์ส่วนตัว ทั้งทำการเกษตร ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย และร้านอาหารมากกว่า 200 ราย เนื้อที่ กว่า 3,000 ไร่
แต่กลุ่มผู้บุกรุก เพื่อทำการเกษตร ได้เข้าแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าร่วมโครงการกับ อ.อ.ป. และขอรับการเยียวยา จากภาครัฐ กรณีการขอคืนพื้นที่เกือบทั้งหมดแล้ว
โดยยังเหลืออีก 8 ราย ที่ยังฝ่าฝืนเพิกเฉย ไม่ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่บุกรุก จึงจำเป็นต้องนำหลักฐาน เข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย