ญาติร้องเรียน รถฉุกเฉิน 1669 ของโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ส่งรถมารับตัวผู้ป่วยล่าช้า จนเลือดเป็นพิษ ติดเชื้อในกระแสเลือด เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ญาตินายสันติสุข พรรณไวย หรือ น้องลูกชิต อายุ 20 ปี ที่เสียชีวิตจากอาการติดเชื้อในกระแส ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า หลานชายต้องเสียชีวิต เพราะเหตุจากรถฉุกเฉิน 1669 มารับช้า จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัดวังไทรติ่ง หมู่ที่ 12 ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพของนายสันติสุข เป็นวันที่ 3
นางสาวสายฝน พรรณไวย อายุ 43 ปี อาของผู้ตาย เล่าว่า หลานชายบ่นว่า ปวดหัวตั้งแต่ช่วงหัวค่ำวันที่ 14 กันยายน ตนเองจึงให้กินยา แต่หลานไม่หายปวด แถมมีไข้ขึ้นอีก จึงช่วยเช็ดตัวให้ไข้ลด แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงได้โทรไปที่สายด่วน 1669 ของโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้มารับตัวหลานชายไปโรงพยาบาล
โดยบอกเจ้าหน้าที่ว่า หลานปวดหัว ตัวร้อน ไข้ขึ้นสูง ก็ได้รับคำตอบมาว่า ให้กินยาไปก่อน ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ช่วงเช้าจะไปรับ กระทั่งต้องติดต่อน้องชาย ให้มารับหลานไปส่งโรงพยาบาลแทน
ขณะที่นายอภิเชษฐ์ พรรณไวย อายุ 41 ปี อาผู้ตาย บอกว่า หลังได้รับโทรศัพท์ ได้รีบขับรถมาจากในตัวเมือง เพื่อมาบ้านหลาน ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร เพราะหลานอาการหนักขึ้น ชัก เกร็ง ตัวแข็ง
เมื่อมาถึง พบว่า พี่น้องได้โทรหา 1669 อีกครั้ง จึงเอาโทรศัพท์มาคุยเอง แต่ยอมรับว่า ใช้น้ำเสียงไม่ดี จนต้องรีบนำหลานออกมาส่งโรงพยาบาล แต่มาได้ไม่นาน รถฉุกเฉิน 1669 ก็สวนทางมารับ
เมื่อถึงโรงพยาบาล แพทย์รีบนำเข้าห้องฉุกเฉินทันที ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ออกมาบอกว่า หลานติดเชื้อในกระแสเลือด และมาเสียชีวิตเวลาบ่าย 3 โมงของวันต่อมา ทำให้รู้สึกติดในว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่ไม่รีบส่งรถพยาบาลมารับให้เร็วกว่านี้
พร้อมทั้งอยากให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ที่รับโทรศัพท์ดังกล่าว มาขอขมาศพน้องด้วย และไม่ต้องการเรียกร้องอะไร อยากให้โรงพยาบาล ช่วยคัดกรองเจ้าหน้าที่ในการรับโทรศัพท์ให้มากขึ้น
ขณะที่นายแพทย์ทรงฉัตร ศิริโยธิพันธุ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นทางโรงพยาบาลได้เรียกเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน มาสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ
ส่วนตัวคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะเกิดจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน ซึ่งในส่วนของทางโรงพยาบาลเอง จะมีขั้นตอนในการปฏิบัติ เมื่อมีการโทรศัพท์เข้ามาแจ้ง เจ้าหน้าที่จะถามอาการของผู้ป่วย ถ้าอาการไม่หนัก จะให้คำแนะนำ แต่ถ้าอาการหนัก เจ้าหน้าที่จะรีบออกไปรับทันที
นายแพทย์ทรงฉัตร บอกต่อว่า ที่ผ่านมา ได้จัดส่งเจ้าหน้าไปอบรม และสอบอยู่ตลอด ซึ่งถ้าสอบไม่ผ่านเกณฑ์ ก็จะต้องไปฝึกอบรมใหม่ สำหรับข้อเรียกร้องของญาติผู้ตาย ทั้ง 2 ข้อ ทางโรงพยาบาลยินดีที่จะทำให้ โดยในวันอาทิตย์นี้ (17 ก.ย.) โรงพยาบาล จะไปเป็นเจ้าภาพในงานศพ พร้อมทั้งพาเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน ไปเคารพศพผู้ตายด้วย