นายกรัฐมนตรี ประชุม ครม. สัญจร ที่ จ.อยุธยา ชี้แจงกรณีแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ให้การต้อนรับที่ จ.สุพรรณบุรี ไม่มีข้อตกลงทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น ขณะที่ก่อนการประชุม ครม. นายกฯ โชว์การร้องลิเก ขณะที่เดินเที่ยวชมตลาดกรุงศรีด้วย
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา วานนี้ (19 ก.ย.) เวลา 07.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป บริเวณหน้าวัดมหาธาตุ พร้อมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก
แต่หลังจากถ่ายภาพหมู่ ได้มีชายวัยกลางคน เดินห้อยป้ายที่มีข้อความระบุว่า "สนับสนุนการปฏิรูปตำรวจ" เพื่อเข้าร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี แต่ถูกเจ้าหน้าที่กันตัวออกมาได้ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเข้าประชิดตัวนายกฯ โดยชายคนดังกล่าวอ้างว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม และถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งตำรวจก็ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้ เพื่อส่งให้ตำรวจท้องที่ดำเนินการต่อไป
จากนั้น นายกฯ ได้นั่งรถรางชมทัศนียภาพของอุทยานประวัติศาตร์ พระนครศรีอยุธยา เพื่อไปทำพิธีเปิดตลาดกรุงศรี ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายกฯ ได้ทักทายกับช้าง และให้อาหารกับช้างด้วย ก่อนจะเดินเยี่ยมชมตลาด
พร้อมกับชิมอาหารหลายอย่าง อาท ข้าวแกง ขนมครก และน้ำผลไม้ต่างๆ ภายในตลาด ภายในตลาด ยังมี แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ ศิลปินแห่งชาติ ที่มาร้องลำตัดต้อนรับนายกฯ ในโอกาสที่จะเยือนจ.อยุธยาด้วย พร้อมกับถ่ายรูปร่วมกัน
ช่วงหนึ่ง ระหว่างเดินชมตลาด นายก ได้ร่วมร้องลิเกกับพ่อค้าขายน้ำ ซึ่งสวมชุดลิเกและร้องลิเกชื่นชมการบริหารงานของนายกฯด้วย (ไปฟังเสียงในช่วงนี้กัน)
จากนั้น นายกฯ จึงเดินทางไปประชุมครม.ที่มหาวิทยาลัยราชภัยพระนครศรีอยุธยา ภายหลังการประชุม ครม. เวลา 14.00 น. นายกฯ เปิดเผยว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชน และพ่อค้าแม่ค้า ทั้ง 2 จังหวัดที่ให้การต้อนรับอย่างดี ทั้งจังหวัดสุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ อาจทำให้เป็นชาวบ้านเป็นภาระบ้าง รัฐบาลก็ขออภัย เพราะรัฐบาลต้องการต้องมาติดตามความก้าวหน้าของงานที่รัฐบาลทำมาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
นายกฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่ได้พบปะกับนายประภัตร โพธสุธน และนายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาในระหว่างลงพื้นที่จ.สุพรรณบุรีว่า ในเรื่องของการเมืองก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของการเมือง และยืนยันว่า ไม่ได้มีข้อตกลงอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่พูดคุยให้ทุกคนได้รับรู้ว่า รัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่เท่านั้น
แต่สื่อหนังสือพิมพ์ หลายฉบับกลับไปพาดหัวในเรื่องของการเมืองว่าเป็นเรื่องของการดิวกัน ยืนยันว่าไม่มีดีลอะไร และไม่จำเป็นต้องดีลกับใคร หากใครคิดเห็นว่า เดินหน้าไปด้วยกันได้ ก็มาช่วยกันดู และมาช่วยกันคิด เพื่อจะได้ไม่เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก หลังการเลือกตั้ง
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวตำหนิสื่อมวลชนที่ตั้งคำถามกว่า 10 คำถาม โดยไม่ได้ถามเกี่ยวกับการประชุม ครม. และยังชอบตั้งคำถามเรื่องการหลบหนีคดีของนักการเมืองบางคน ซึ่งไม่ได้อะไรขึ้นมา เพราะสุดท้าย ไม่ว่าอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็ต้องจับตัวมาให้ได้ หรือ บางทีก็นำเสนอและตนเองเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็เข้ามาแก้ปัญหาถึง 90% แต่ยังถูกสื่อตำหนิอยู่เรื่อย ทั้งที่ทั้งหมดเป็นเรื่องเก่า แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไข พร้อมระบุว่า วันนี้อารมณ์ รุนแรงไปหน่อย แต่ไม่ได้อารมณ์เสีย แค่อารมณ์ไม่ดี
จากนั้น นายกฯ ได้กล่าวกับประชาชนที่มารอพบปะกว่า 1 พันคน ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ในระหว่างลงพื้นที่ ตนอาจจะอารมณ์เสียนิดหนึ่งกับคำถามของสื่อ แต่พอเห็นรอยยิ้มจากประชาชน ตนก็มีกำลังใจขึ้นมา
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการทุจริตให้มาบอกตน ตนจะดำเนินการให้ ไม่ว่าจะเป็นทหาร หรือ ตำรวจ หรือ ใครก็ตามที่อ้างชื่อตน เพื่อรับผลประโยชน์ ล่าสุดพบคนชื่อเสธ.อ. อ้างว่าเป็นเพื่อนตน ทั้งที่ไม่ใช่เพื่อนตนแน่นอน หากใครพบเห็นคนแอบอ้าง ขอให้รีบแจ้งมาเพื่อดำเนินการ และตนไม่เข้าข้างคนรวย แต่ตนเข้าข้างคนจน และพร้อมรับฟังทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องไร้สาระ
นายกฯ ยังกล่าวยอมรับว่า เบื่อหน้าตนเองที่เห็นออกทีวี และอยู่ในหนังสือพิมพ์ทุกวัน แต่ที่สำคัญคือ สื่อชอบเอารูปที่ตนไม่หล่อ ไปออกหนังสือพิมพ์ทุกวัน
จากนั้นเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนที่นายกฯ จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเดินทางกลับ กทม.