กรณีแม่แจ้งความลูกสามเณรถูกครูตีบาดเจ็บ ล่าสุดพบว่ามีเพื่อนครูสั่งให้นักเรียนโกหกเพื่อปกป้อง พบมีอารมณ์แปรปรวน เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง

กรณีที่หญิงอายุ 32 ปีชาวจังหวัดลำพูน พาลูกชายซึ่งบวชเป็นสามเณร อยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.เมืองลำพูน พร้อมเพื่อนสามเณรอายุ 11 ปี รวม 3 รูป ไปแจ้งความ อ้างว่า ถูกครูประจำวิชาสังคม ใช้ไม้เรียวคู่เฆี่ยนตีที่ก้นประมาณ 5 ครั้งต่อ 1 รูป จนเป็นรอยแดงช้ำ เพราะโมโหทำการบ้านไม่เสร็จ

ล่าสุดทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว โดยผู้ปกครอง ระบุว่า สามเณรเป็นโรคสมาธิสั้นต้องกินยาทุกวัน รู้สึกไม่พอใจที่ครูทำรุนแรงกับลูกศิษย์ นอกจากนี้พบว่าครูคนดังกล่าว มีอารมณ์แปรปรวนมีพฤติกรรมทำโทษรุนแรงกับลูกศิษย์หลายรุ่นมานานแล้ว ทั้ง ใช้รองเท้านักเรียนฟาดหน้าเด็ก เพราะวางรองเท้าผิดที่ ใช้ไม้หนีบนักเรียน และเตะ รวมถึงเอาปากกาปาใส่หน้านักเรียนจนเป็นแผลมีเลือดออกหางคิ้วแตก แต่ไม่มีใครกล้ายุ่งแม้แต่ผู้อำนวยการโรงเรียนยังกลัว จึงเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ และยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะที่ครู ระบุว่า ได้ชี้แจงไปกับต้นสังกัดแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ และเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะถูกโจมตีมากกว่า

อย่างไรก็ตามทราบว่าหลังเป็นข่าว มีครูผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนกับครูที่ก่อเหตุได้เดินทางไปที่วัด และสั่งให้เด็กนักเรียนให้พูดโกหกกับนักข่าวว่าว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และสั่งให้ปกป้องครู

แต่ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง