ผู้ต้องสงสัย ที่นำสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2560 ไปขึ้นเงินรางวัล ยังไม่เข้าให้ปากคำตามหมายเรียก โดยอ้างว่า ยังไม่พร้อม ขณะครอบครัวหนุ่มที่ถูกรางวัล แต่สลากหาย เริ่มกังวล หลังพยานกลับคำพูด
จากกรณีที่นายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง อายุ 31 ปี ชาวบ้านวังกะโดน จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันว่า ตนเองถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2560 หมายเลข 715431 เงินรางวัล 12 ล้านบาท แต่สลากหายไป และ ด้แจ้งความสลากหาย เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมานั้น
วานนี้ (27 ก.ย.2560) นายพันธุ์ศักดิ์ พร้อมญาติ เดินทางเข้าพบพันตำรวจเอกไพศาล สุวรรณทา ผู้กำกับการ สอบสวนกลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหาย รวมถึงพยานแวดล้อม คนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล เอกสารที่ทางกองสลากส่งมาให้
รวมถึงข้อมูลจากยี่ปั๊ว ที่ยืนยันได้ว่า สลากชุดนี้จำหน่ายที่ไหน และขณะนี้ ได้มีผู้นำสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 สิงหาคม 2560 ชุดเดียวกับที่นายพันธุ์ศักดิ์ ยืนยันว่า ถูกรางวัล ไปขึ้นเงินที่กองสลากเรียบร้อยแล้ว 2 ราย ทั้งสองรายเป็นสามีภรรยากัน และมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด
ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ต้องสงสัย และบุคคลที่ถูกพาดพิงมาสอบปากคำ เพื่อหาข้อเท็จจริง แต่ผู้ต้องสงสัยไม่ได้เดินทางมาตามนัด โดยอ้างว่า ยังไม่พร้อม
ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน พ่อค้าจำหน้ายสลากกินแบ่งรัฐบาลได้เข้า ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมเช่นกัน แต่ปฏิเสธให้ข้อมูลกับสื่อ และไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ
ขณะที่นายวีระ เสือชุมแสง พ่อของนายพันธุ์ศักดิ์ บอกว่า เริ่มรู้สึกกังวล หลังพ่อค้าจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้กับนายพันธุ์ศักดิ์ มีท่าทีเปลี่ยนไป และกลับคำพูดอ้างว่า จำไม่ได้ว่า ขายสลากให้ใครบ้าง ทั้งที่ตอนแรก ยืนยันกับญาติว่า จะเป็นพยานให้ และให้การกับตำรวจว่า ได้ขายลอตเตอรี่ให้กับนายพันธุ์ศักดิ์ จริง
ด้านพันตำรวจเอกพศาล ระบุว่า ขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย พยานแวดล้อม รวมถึงบุคคลที่ถูกกล่าวหาพาดพิงไปแล้วกว่า 10 ปาก ได้ข้อมูลหลักฐานมากพอสมควร แต่ยังไม่ขอเปิดเผยเพราะข้อมูลมีผลต่อรูปคดี เชื่อว่า ภายใน 1 สัปดาห์จะมีความคืบหน้าอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องสงสัย ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ที่นำสลากกินแบ่งรัฐบาลไปขึ้นเงินที่กองสลาก ยังไม่เข้ามาให้ปากคำตามนัดนั้น ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถขอเลื่อนนัดได้
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวน จะนัดหมายผู้ต้องสงสัยมาให้ปากคำอีกครั้ง และหากยังไม่มาตามนัดครบ 3 ครั้ง ตำรวจจะออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป