สองสามีภรรยาที่ถูกรางวัลเข้าพบตำรวจยืนยันความบริสุทธ์ ขณะที่พ่อค้าขายล็อตเตอรี่ยอมรับแล้ว ว่าขายสลากให้ชาย 2 คน พร้อมสาบานไม่ได้รับเงินจากใครตามที่ถูกกล่าวหา

ความคืบหน้ากรณีที่นายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง อายุ 31 ปี พร้อมญาติเข้าแจ้งความกับตำรวจบุรีรัมย์ ว่าถูกคนร้ายขโมยสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ มูลค่า 12 ล้านบาท กระทั่งต่อมามีการตรวจสอบและพบว่าคนที่นำสลากชุดดังกล่าวไปขึ้นเงิน เป็นเสี่ยเจ้าของปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด

โดยเมื่อวานนี้ นายสุวัช จันทร์พลาง อายุ 42 ปี พ่อค้าขายล็อตเตอรี่ บอกว่าขายลอตเตอรี่ให้กับนายพันธุ์ศักดิ์ เท่านั้น ไม่ได้ขายให้กับเสี่ยที่ จ.ร้อยเอ็ด ที่นำไปขึ้นเงิน จนมาวันนี้ นายสุวัช พ่อค้าขายล็อตเตอรี่ ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ยอมรับว่า ได้ขายสลากให้กับชายทั้ง 2 คนจริง แต่จำไม่ได้ว่าใครซื้อเลขอะไรไป เพราะแต่ละวันมีคนมาซื้อเยอะมาก ยืนยันได้เพียงว่าลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1ซื้อจากตนเองแน่นอน เพราะยังเก็บต้นขั้วไว้

ทั้งนี้ รู้สึกเครียดที่มีกระแสโจมตี ว่าพูดกลับไปกลับมา หรืออาจจะรับเงินจากเสี่ยคนที่ไปขึ้นเงินรางวัลหรือไม่ โดยตอนแรกที่ไปเป็นพยานให้นายพันธุ์ศักดิ์ เพราะตอนนั้น มีนายพันธุ์ศักดิ์เพียงคนเดียวที่มาแสดงตัวว่าถูกรางวัลที่ 1 ชุดที่ซื้อกับตน จากนั้นเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ตำรวจได้มาสอบถามว่า รู้จักกับเสี่ยปั๊มน้ำมันคนที่ไปขึ้นเงินหรือไม่ ทันทีที่เห็นหน้า ก็จำได้ว่าขายล็อตเตอรี่ให้เสี่ยคนนี้เหมือนกัน

ล่าสุดนายวิทยาและนางขวัญศิริ ธนทรัพย์สิน สองสามีภรรยา ชาว จ.ร้อยเอ็ด ที่ถูกระบุว่านำสลากไปขึ้นเงิน ได้เข้าพบตำรวจ สภ.นางรองแล้ว พร้อมทั้งได้นำรูปถ่ายลอตเตอรี่มายืนยันความบริสุทธิ์ และถูกจำนวน 3 ใบเป็นเงิน 18 ล้านบาท ไม่ใช่ 2 ใบ

นายวิทยา เล่าว่า มีอาชีพรับเหมาติดตั้งกระจก ช่วงเดือนสิงหาคม ได้มารับเหมางานที่ จ.บุรีรัมย์ ระหว่างนั้นมีพ่อค้ามาเดินเร่ขายลอตเตอรี่ จึงซื้อไว้ 3 ใบ เมื่อทราบว่าถูกรางวัล ก็ไม่ได้ไปลงบันทึกประจำวัน เพราะไม่อยากเป็นข่าว ยืนยันถูกรางวัลจริงและไม่เคยรู้จักกับนายพันธุ์ศักดิ์ รวมทั้งเด็กผู้ชายอายุ 15 ปี ที่ถูกสงสัยว่าเป็นคนขโมย เรื่องนี้ทำให้ตนเองเสียหายอย่างมาก และตนเองยินดีทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ความจริง