ทนายความ "พานทองแท้ ชินวัตร" ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กรณีดีเอสไอ ดำเนินคดีฐานฟอกเงิน คดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย ชี้เป็นการเจาะจงเอาผิดเฉพาะบางกลุ่ม เชื่อหลักฐานไม่เพียงพอเอาผิด
นายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ายื่นหนังสือ เพื่อขอความเป็นธรรมกับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้ดำเนินคดีกับนายพานทองแท้ ในความผิดฐานฟอกเงินในคดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย ให้กับบริษัทกลุ่มกฤษฎามหานคร โดยมีพันตำรวจตรี วรนันท์ ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ และรองโฆษก ดีเอสไอ เป็นผู้รับมอบ
นายชุมสายกล่าวว่า สาเหตุที่เดินทางมายื่นหนังสือ เพื่อให้พิจารณาคดีฟอกเงิอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพราะในคดีนี้ มีผู้ร่วมกระทำผิดรวมกว่า 150 ราย ที่รับเช็คในลักษณะกระจายหลายบุคคล ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลใดที่ดีเอสไอ จะเจาะจงดำเนินคดีแบบเร่งรัด กับบุคคลกลุ่มใดพิเศษ
นายชุมสาย เชื่อว่า การรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดของดีเอสไอ ยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะเอาผิดกับนายพานทองแท้ เพราะการกระทำผิดฐานฟอกเงินนั้น ผู้กระทำต้องรู้ว่า ทรัพย์สินที่ได้รับโอน หรือที่เข้าไปเกี่ยวข้องนั้น เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และกระทำโดยมีเจตนาพิเศษ ซุกซ่อน ปกปิด อำพรางแหล่งที่มาของเงิน
แต่กรณีนี้ นายพานทองแท้ ไม่ทราบว่า เช็ค 10 ล้านบาท ที่นายวิชัย กฤษดาธานนท์ สั่งจ่ายให้นายพานทองแท้นั้น เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด อีกทั้งนายพานทองแท้ ไม่มีเจตนาเพื่อซุกซ่อน ปกปิดอำพรางแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น
นอกจากนี้ ยังมีบุคคลและนิติบุคคลเกือบ 200 ราย ที่ได้รับเช็คในทำนองเดียวกัน ในลักษณะกระจายออกไป แต่ดีเอสไอ กลับพยายามเร่งรัดรีบร้อน จะดำเนินคดีกับนายพานทองแท้กับพวก อยู่เพียงกลุ่มเดียว
มีรายงานว่า ขณะนี้ พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ได้แต่งตั้งพันตำรวจเอกปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินและธนาคาร เป็นหัวหน้าคณะสืบสวนข้อเท็จจริง ในประเด็นกรณีที่นายวีระ สมความคิด และนายวันชัย บุนนาค ทนายความอิสระ ร้องเรียนให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง คดีฟอกเงินของธนาคารกรุงไทยทั้งหมด รวมกว่า 200 ราย
โดยสัปดาห์หน้า จะเชิญผู้ร้องเรียน ทั้งนายวีระ และนายวันชัย มาสอบคำให้การในฐานะผู้ร้อง คาดว่า จะใช้เวลาในการสืบสวนข้อเท็จจริง ประมาณ 30 วัน ส่วนคดีฟอกเงิน ทางดีเอสไอจะยังไม่เรียกนายพานทองแท้ มาแจ้งข้อกล่าวหาในช่วงนี้ โดยจะรอจนกว่าคณะทำงานสืบสวนข้อเท็จดำเนินการแล้วเสร็จก่อน