ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดี คนร้ายบุกเดี่ยว ใช้ปืนจี้ชิงเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา เผยรู้เบาะแสมากขึ้น เชื่อตามจับได้ไม่ยาก ขณะเดียวกัน ได้เชิญตัวชายต้องสงสัยสอบปากคำ แต่พยานยืนยัน ยังไม่ใช่คนร้ายก่อเหตุ
จากกรณีชายรูปร่างสูงสวมเสื้อคลุมสีดำ ใส่แว่นตาแบบใส สวมหน้ากากอนามัย และหมวกกันน็อกสีดำ บุกเดี่ยว ใช้ปืนจี้ชิงเงิน จากหน้าเคาน์เตอร์ของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาด16 ตำบลดอนฉิมพลี อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา กวาดเงินไปเกือบ 8 แสนบาท ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไปเมื่อช่วงเที่ยง วันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา
ล่าสุดวานนี้ ( 30 ก.ย.) เจ้าหน้าที่สืบสวน ชุดคลี่คลายคดี ได้เชิญตัวชายวัย 30 ปีเศษ คนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะรูปพรรณ ละม้ายคล้ายกันกับคนร้าย มาสอบปากคำที่ สภ.ฉิมพลี
โดยให้ชายคนดังกล่าว สวมใส่ชุด ซึ่งมีลักษณะเดียวกันกับที่คนร้ายใช้สวมใส่ พบว่า มีลักษณะค่อนข้างเหมือนกับคนร้ายมาก แต่เมื่อให้พยานที่พบเห็นเหตุการณ์ เข้ามาดูตัวหลายคน กลับยืนยันว่า ไม่ใช่คนร้ายตัวจริง เพราะผู้ต้องสงสัยตัวเล็กกว่าคนร้ายมาก
ขณะที่ พลตำรวจโทจิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เรียกผู้ต้องสงสัยเข้าสอบปากคำด้วยตนเอง นานกว่า 30 นาที พร้อมดูวงจรปิดที่เกิดเหตุ เปรียบเทียบลักษณะ ก่อนจะทำบันทึกประวัติ และปล่อยตัวกลับไป
จากนั้น พลตำรวจโทจิตติ ได้ เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดี โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าบันทึกภาพและรับฟังแต่อย่างใด
หลังประชุมเสร็จ พลตำรวจโทจิตติ เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำพยานไว้แล้ว จำนวน 8 ปาก พร้อมเรียกดูข้อมูลของบุคคลที่เข้ามาทำธุรกรรมในธนาคารแห่งนี้ ย้อนหลังไป 7 วัน ว่ามีใครเข้ามาทำอะไรบ้าง เพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัย ที่อาจมีส่วนรู้เห็น หรือ เข้ามาดูลาดเลา ก่อนลงมือก่อเหตุ
พร้อมนำประวัติบุคคลต้องสงสัย และ ผู้ที่เคยมีประวัติทางอาชญากรรมในพื้นที่และใกล้เคียง ที่เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาตรวจสอบ เทียบเคียงรูปพรรณ พร้อมให้เจ้าหน้าที่ กระจายกำลังไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาตัวคนร้าย เชื่อว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ หรือ อาจอยู่ใกล้เคียง
เบื้องต้น จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด มีภาพคนร้ายมากขึ้น จนรู้เส้นทางที่มาและหลังก่อเหตุ ตลอดจน ลักษณะของรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุชัดเจนแล้ว คาดว่า คดีนี้ น่าจะคลี่คลายได้ไม่ยาก