วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดระเบียบพื้นที่วัดเข้มข้น ห้ามจำหน่ายวัตถุมงคลในวัด แต่สุดท้ายพบว่า ยังลักลอบนำมาขายตรงรั้ววัด
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กำหนดพื้นที่การจัดระเบียบวัดอย่างชัดเจน ทั้งเขตพุทธาวาส เขตสังฆาวาส รวมทั้งบริเวณรอบพระวิหารหลวง จะปลอดจากการจำหน่ายวัตถุมงคล หรือแผงร้านค้า เว้นซุ้มให้บริการดอกไม้ธูปเทียนของวัดเท่านั้น
ส่วนการจำหน่ายวัตถุมงคลนั้น แม้ว่า ทางวัดจะจำกัดพื้นที่หวงห้ามเข้ามาจำหน่ายโดยเด็ดขาด แต่ยังพบว่า มีพ่อค้าแม่ค้าจากภายนอก พยายามนำสินค้าวัตถุมงคลของตัวเอง มาเสนอขายให้กับนักท่องเที่ยวบริเวณรั้วของวัดโดยตลอด ซึ่งวัดไม่สามารถควบคุมได้
เช่นเดียวกับที่วัดพระสิงห์วรวิหาร อำเภอเมืองเชียงใหม่ พบว่า ได้มีการนำตู้โชว์ที่ให้เช่าบูชาพระเครื่อง วัตถุมงคล เทวรูป และเครื่องรางของขลัง ออกไปจากอุโบสถแล้วเช่นกัน โดยภายในอุโบสถ มีเพียงตู้รับบริจาคปัจจัย และจำหน่ายดอกไม้ ธูปเทียนเท่านั้น
เช่นเดียวกับที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการย้ายสถานที่จำหน่ายวัตถุมงคล ที่อยู่ข้างหลวงพ่อโตภายในวิหาร ออกไปยังด้านนอก พร้อมประกาศยุติการโยนผ้าห่มองค์หลวงพ่อโตแล้ว เพื่อความเหมาะสมในเรื่องของการขึ้นไปยืนบนตัวองค์พระ
ซึ่งต่อไปนี้ จะไม่มีวิธีการดังกล่าวแล้ว จะให้ถวายผ้าโดยวางที่โต๊ะข้างล่างแทน ขณะที่ก็มีชาวบ้าน บางส่วนอยากให้อนุรักษ์วิธีการนี้เอาไว้ เนื่องจากเป็นเหมือนอันซีนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่จะมีที่วัดพนัญเชิงวรวิหารเท่านั้น
ส่วนที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ยังพบตู้วัตถุมงคลความยาว 15 เมตร ตั้งจำหน่ายอยู่บนหอประชุมหลวงปู่ศุข ที่ในแต่ละวัน จะมีประชาชนเดินทางมากราบไหว้กว่าวันละ 2,000 คน
พระใบฎีกาไฉน พระลูกวัด เปิดเผยว่า ที่ทางวัดจัดให้เช่าวัตถุมงคลภายในหอประชุม ซึ่งไม่เข้าข่ายเป็นอุโบสถ ถือว่า ยังไม่เข้าข่ายสถานที่ต้องห้ามมติของมหาเถระสมาคม
อีกทั้งขอความเห็นใจว่า ทางวัดมีความจำเป็นต้องจำหน่ายวัตถุมงคบ เพื่อนำปัจจัยเข้าวัด เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่าน้ำค่าไฟ และบูรณะวัด