ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกเจ้าอาวาสวัดสวนดอกเข้ารับทราบข้อกว่าหาภายใน 2 วันนี้ หลังได้หลักฐานยืนยันชัดเจนว่าเป็นชาวเมียนมา
ที่วัดสวนดอก พระอารามหลวง ตัวเมืองเชียงใหม่ ยังคงไม่พบตัว พระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสและเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ หลังถูกแจ้งความในข้อหาสวมบัตรประชาชนผู้อื่น กุฏิเจ้าอาวาส ยังคงถูกปิดเงียบ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องการแจ้งความดังกล่าว กับพระลูกวัด ได้รับคำตอบว่า วัดยังไม่ได้รับหนังสือจากหน่วยงานใดๆ ส่วน พระราชรัชมุนี ก็ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน
ขณะเดียวกัน พันตำรวจเอก ทรงกริช ออนตะไคร้ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามคดีดังกล่าว ที่สถานีตำรวจภูธรแม่อาย ล่าสุด
พนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำ ปลัดอาวุธโส อำเภอแม่อาย ที่เข้าแจ้งความไปแล้ว และ ได้รับหลักฐาน ล่าสุดคือ เลขบัตรประจำตัวประชาชนที่แท้จริง ของ พระราชรัชมุนี เป็นเลขที่ใช้ขึ้นทะเบียนของชาวเมียนมาพลัดถิ่น
และตำรวจกำลังรอหลักฐานเพิ่มเติมจากจังหวัดชัยภูมิ ที่นำชื่อไปสวมบัตรประชาชน คาดว่า ภายใน 2 วันนี้ จะสามารถออกหมายเรียก พระราชรัชมุนี มารับทราบข้อกล่าวหาได้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พระชั้นผู้ใหญ่ ของจังหวัดเชียงใหม่ รูปหนึ่ง ได้บอกถึงการที่ พระราชรัชมุนี สวมบัตรประชาชนว่า ในวงการพระสงฆ์ ทราบกันดีว่า พระราชรัชมุนี เติบโตมาจากวัดที่อยู่แนวชายแดน และเป็นเรื่องปกติ ที่จะมีพระสงฆ์-สามเณร จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ข้ามมาบวชในวัดดังกล่าว เพราะมีชื่อเสียง ในการส่งเสริมการศึกษาให้กับพระ
พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีความเป็นไปได้ ที่จะมีพระสงฆ์ระดับพระชั้นผู้ใหญ่รูปอื่นๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ สวมบัตรประชาชนผู้อื่นอีก
ส่วนกระแสข่าวลือว่า พระราชรัชมุนี ได้โยกย้ายถ่ายเทเงินของวัดสวนดอก ประมาณ 70 ล้านบาทไปด้วยนั้น พระชั้นผู้ใหญ่ รูปนี้ บอกว่า ส่วนตัว ไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะที่รู้จัก พระราชรัชมุนี เป็นพระที่มุ่งเน้นด้านการศึกษา ไม่ได้สนใจเงินบริจาคของญาติโยม แต่ยอมรับว่า พระราชรัชมุนี ถือเรื่องสมณะศักดิ์ มักพูดจาด้วยถ้อยคำรุนแรง กับพระที่สมณะศักดิ์ต่ำกว่า