"นายไพบูลย์ นิติตะวัน" เผย เตรียมตั้งพรรค "ประชาชนปฏิรูป" โดยอยู่ระหว่างการหาสมาชิกพรรค พร้อมยืนยันสนับสนุน "พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ขึ้นเป็นนายกฯหลังการเลือกตั้ง ด้านกรรมการร่างรัฐธรรมนููญ มั่นใจร่างกฎหมายลูกเสร็จทันกรอบเวลา ยืนยันไม่มีวางยาให้กฎหมายลูกถูกตีตกในชั้น สนช.
นายอมร วาณิชวิวัฒน์ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการทำงานของ กรธ. ว่า ขณะนี้การจัดทำร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ใกล้เสร็จแล้ว คาดว่า น่าจะเสร็จสมบูรณ์ในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ ซึ่ง กรธ. กำลังเร่งร่างกฎหมายลูกที่เหลือให้เสร็จทันตามกรอบเวลา 240 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญ ปี 2560 กำหนดไว้ โดยจะไม่ยอมให้เกินกำหนดเวลาแน่นอน
ส่วนการส่งกฎหมายลูกให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา ตนเชื่อว่าน่าจะไม่มีปัญหา เพราะกรธ.และสนช.ได้ประสานงานกันตลอด อีกทั้ง สนช.ได้ตั้งชุดศึกษาล่วงหน้าในกฎหมายแต่ละฉบับไว้อยู่แล้ว จึงน่าจะเสร็จตามโรดแม็ปที่กำหนดไว้
ยืนยันว่า การร่างกฎหมายลูกไม่ได้มีการวางยาอะไรที่จะทำให้เกิดการคว่ำร่างกฎหมายลูก เพราะกรธ.เขียนทุกอย่างตามหลักการในรัฐธรรมนูญ ไม่มีอะไรเกินเลยมากไปกว่านั้น ซึ่งกรธ.ทุกคนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ คงไม่เอาชื่อเสียงมาทิ้ง อีกทั้งนายกรัฐมนตรีประกาศวันเลือกตั้งไว้อย่างชัดเจนแล้ว
ด้านนายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะคณะทำงานติดตามการร่างรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญระบุว่า เมื่อมีกฎหมายลูก 4 ฉบับแล้วให้จัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน น่าจะหมายความว่าเรื่องการเลือกตั้งต้องทำภายใน 150 วัน
ปัญหา คือ กฎหมายไม่ระบุชัดเจนว่า กรอบเวลา 150 วันนั้น รวมถึงวันประกาศผลการเลือกตั้งด้วยหรือไม่ แต่หากให้ตนเองตีความ มองว่า 150 วันต้องรวมถึงการเลือกตั้งและประกาศผลเลือกตั้งด้วย ซึ่งกรณีที่นายกฯ ประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.ปี61 และทำให้หุ้นพุ่งขึ้นมาทันที เป็นดัชนีชี้ให้เห็นแล้วว่า ประชาชนต่างรอคอยการเลือกตั้ง
นายสามารถ กล่าวว่า ส่วนการเตรียมพร้อมของพรรคเพื่อไทยเพื่อให้สอดรับกับกฎหมายพรรคการเมืองนั้น ต้องยอมรับว่าคำสั่งคสช.ห้ามชุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปและห้ามจัดกิจกรรมทางการเมืองใดๆ ทำให้นักการเมืองทำงานลำบาก เพราะไม่สามารถจะไปนั่งประชุมร่างข้อบังคับได้ จึงอาจจะแจกการบ้านให้แต่ละคนเตรียมข้อมูลก่อน และเมื่อถึงเวลาที่คสช.เปิดให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม ก็นำข้อมูลที่เตรียมไว้มาเข้าที่ประชุม เพื่อให้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้
ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากนายกฯ ประกาศจะจัดให้มีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561 ส่งผลดีในด้านเศรษฐกิจ เพราะนักลงทุนกล้าลงทุน เชื่อว่าแนวโน้นเศรษฐกิจไทยจะไม่แย่ลง แต่จะนำไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น หากคสช.เดินหน้าตามที่ประกาศไว้ เพราะสัญญาณบวกที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่า ประชาชนอยากให้มีการเลือกตั้ง
ขณะที่นักลงทุนต่างก็อยากเห็นทิศทางที่ชัดเจนของประเทศไทย เพื่อจะได้วางแผนการลงทุน โดยเฉพาะการร่วมลงทุนใหญ่ของรัฐบาลในโครงการเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ(อีอีซี) เพราะหากรัฐบาลไม่มีความชัดเจน นักลงทุนคงไม่มีความเชื่อมั่น
หากทุกอย่างเป็นไปตามที่ประกาศจริง คือเลือกตั้งพฤศจิกายน 2561 ทำให้อาจได้รัฐบาลใหม่ช่วงต้นปี 2562 จากนั้นเมื่อเลือกตั้งแล้วเสร็จ การเจรจาการค้าต่างๆก็จะเกิดขึ้นได้ง่ายและนักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เช่นเดียวกับประชาชนที่จะกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
ส่วนนายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่า จะเปิดให้มีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561 จึงเชื่อว่าจะไม่มีการเลื่อนเลือกตั้งอีกต่อไป และเป็นเรื่องยากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะตีตกกฎหมายลูกเพื่อให้เลื่อนการเลือกตั้ง เพราะการที่ พลเอกประยุทธ์ประกาศชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ถือเป็นความรับผิดชอบสูงสุดที่คนเป็นผู้นำต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลเดินหน้าตามกรอบที่กำหนดไว้ เพราะถือเป็นสัญญาณที่ดีในการสร้างความเชื่อมั่นแก่ต่างประเทศและคนไทย
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าตั้งพรรคการเมืองว่า เบื้องต้นจะมีการตั้งสำนักงานเพื่อจดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองที่มีชื่อว่า "พรรคประชาชนปฏิรูป" ตั้งอยู่ที่แยกบางนา แต่ในรายละเอียดการดำเนินการอื่นๆนั้น ต้องรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประกาศระเบียบ มารองรับตามกฏหมายลูกอีกครั้ง รวมถึงต้องรอให้คสช.อนุญาตให้มีการทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ขณะนี้ได้รวบรวมผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และสมาชิกพรรคอยู่ แต่ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดตอนนี้ว่า สมาชิกพรรคจะเป็นใครบ้าง
โดยนโยบายและการดำเนินการของพรรคจะไม่เหมือนพรรคการเมืองเดิมๆที่มีอยู่ ซึ่งพรรคของตฯจะไม่เอาประชาชนมาเป็นเครื่องมือ และตนยืนยันว่ายังสนับสนุนพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนที่มีความสามารถ