น้ำท่วมขังบนถนนสายหลัก 55 จุด หลังฝนตกถล่มกรุงเทพตลอดคืนวันที่ 13 ต.ค. ส่งผลให้การจราจรช่วงเช้าติดขัด รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ด้านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขอโทษคน กทม. ยอมรับผิดทำให้ประชาชนเดือดร้อน ชี้แจงสาเหตุน้ำท่วมขังสูง เพราะฝนที่ตกมามีปริมาณเกิน 200 มิลลิเมตร ทำให้การเร่งระบายน้ำช้า

สภาพฝนตกหนักต่อเนื่องกันหลายชั่วโมงในกรุงเทพฯและรอบปริมณฑล ตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้กรุงเทพฯถูกน้ำท่วมขังเพื่อรอการระบาย การจราจรเป็นอัมพาตหลายสาย อาทิ ถนนวิภาวดีรังสิต แจ้งวัฒนะ รัชดาภิเษก ลาดพร้าว เพชรบุรี และเพชรเกษม

รถยนต์หลายคันเสียอยู่กลางน้ำและริมถนนจำนวนมาก โดยเฉพาะถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่ช่วงโรงพยาบาลวิภาวดีจนถึงดินแดง มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 60 เซนติเมตร ทั้งขาเข้าและขาออก ทำให้รถเล็กไม่สามารถใช้งานได้ มีรถจอดติดจำนวนมาก อีกทั้งมีรถยนต์ส่วนบุคคลจอดเสียเป็นระยะๆ โดยเฉพาะช่วง 5 แยกลาดพร้าว ซึ่งมีการก่อสร้างตลอดเส้นทาง บริเวณฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนสูงสุดได้ที่จุดวัดสำนักงานเขตพระนคร อยู่ที่ 203 มิลลิเมตร (มม.)

ขณะที่ในโลกสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพ สถานการณ์น้ำท่วมที่บริเวณคอนโดหรูใจกลางเมือง อาทิ ในพื้นที่ย่านอารีย์ เขตพญาไท และย่านรัชดา ในซอยรัชดาภิเษก 19 โดยปริมาณน้ำท่วมสูง ส่งผลให้รถยนต์ที่จอดอยู่ในบริเวณลานจอดรถจมอยู่ใต้น้ำ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก

ด้าน พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง กล่าวขณะลงพื้นที่น้ำท่วมบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนตั้งแต่ 01.00 ของวันที่ 13 ต.ค.ถึง ช่วงเช้าของวันที่ 14 ต.ค. มีลักษณะตกกระจายรอบพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมาณฝนสูงสุดถึง 203 มิลลิเมตร เป็นปริมาณสูงสุดครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ตั้งแต่สมัย พลตรีจำลอง ศรีเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ในปี 2529 หรือในรอบ31ปี ) จากนั้นไม่เคยมีปริมาณฝนสูงสุดถึงจำนวนดังกล่าว

พอฝนตกหนักทำให้การระบายน้ำของ กทม.ล่าช้า และต้องยอมรับกับสภาพน้ำท่วม ทั้งนี้พบน้ำท่วมทั้งหมด 55 จุด ที่วิกฤติ กทม.ได้เร่งระบายน้ำในเวลา 09.00 น. เหลือ 30 จุด และเหลือน้ำรอระบายเพียง 6 จุด อาทิ ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนดินแดง ถนนเพชรเกษม และถนนเพชรบุรี

ตนเองฝากขอโทษพี่น้องประชาชนด้วย กทม.พยายามระบายน้ำอย่างเต็มที่ แต่ฝนที่ตกลงมาปริมาณมากและเกิดวิกฤตน้ำรอระบาย ซึ่งตนไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ

พลตำรวจเอก อัศวินกล่าวว่า แม้วันนี้จะเกิดน้ำท่วมในหลายจุด แต่ กทม.มีความพร้อมรับมือปัญหาน้ำท่วม โดยปัญหาไม่ได้มีสาเหตุจากอุปกรณ์ระบายน้ำไม่เพียงพอ เพียงแต่ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเกินขีดจำกัดที่ กทม.จะรับได้

สำหรับอุโมงค์ระบายน้ำยักษ์ที่เพิ่งเปิดเดินระบบก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบายน้ำด้วย แต่การระบายน้ำจะค่อยๆ ลดลงไป จะให้การระบายน้ำดูดทีเดียวหมด เหมือนแก้วกาแฟคงเป็นไปไม่ได้

ขณะนี้ทาง กทม.ก็เฝ้าติดตาม"พายุขนุน"เคลื่อนตัวลงมาจากฝั่งตะวันตกของฟิลิปปินส์ลงมายังทะเลจีนใต้ หากขึ้นฝั่งที่เกาะไหหลำ อาจทำให้เกิดฝนตกในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์กลุ่มพรรค ปชป. ระบุว่า "วันนี้เป็นครั้งแรกที่น้ำท่วมเข้ามาถึงในบ้าน ไม่ได้เก็บของขึ้นที่สูงไว้ด้วย รถเสียไปเรียบร้อยครับขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง นอกจากรถยนต์แล้ว อย่างอื่นเสียหาย ไม่มากครับ มีหลายคนเจอเหมือนกัน อาจเสียหายมากกว่าผม เป็นกำลังใจกันและกันครับ" ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บ้านพักของนายอภิสิทธิ์ตั้งอยู่ภายในซอยสวัสดี สุขุมวิท 31 ซึ่งถนนสุขุมวิทเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังรอการระบาย

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพฯ เริ่มคลี่คลายในเวลา 13.00 น. หลังเจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำที่ท่วมหนักทำให้น้ำบนถนนวิภาวดีรังสิต และถนนหลายสาย ลดระดับลงจนเกือบปกติ จนช่วงเวลา 15.00 น. สถานการณ์น้ำทุกจุดกลับเข้าสู่ภาวปกติ

ขณะที่เมื่อเวลา 19.30 น.วานนี้ (14 ต.ค.) มีฝนตกกระจายหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล มีจุดน้ำท่วมขังรอการระบายบนถนนหลายพื้นที่ อาทิ ถนนเอกชัย บริเวณแยกบางบอน มีน้ำท่วมสูงประมาณ 15 เซ็นติเมตร ถนนเพชรเกษม ขาออก บริเวณหน้าโรงพยาบาลเพชรเกษม 2  สูง 20 เซ็นติเมตร ถนนกัลปพฤกษ์ ตัดกับถนนบางบอน 1 บริเวณแยกบางพฤกษ์ สูง 20 เซ็นติเมตร ถนนพัฒนาการ ขาออก และถนนพัฒนาการขาเข้า  สูง 20 เซ็นติเมตร 

สถานการณ์น้ำท่วมกรุงเทพและปริมณฑล