นายกรัฐมนตรี ยืนยัน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ สถานการณ์น้ำ ห่วงประชาชนเผชิญน้ำท่วม ระบุ นำเหตุน้ำท่วมปี 54 เป็นบทเรียนวางแผนรับมือ และ ขอให้ประชาชนติดตามการประชาสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ "คสช." ไฟเขียวตั้ง "สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ" ขึ้นตรง "สำนักนายกรัฐมนตรี" เพื่อบูรณาการบริหารจัดการน้ำ

"คสช."ไฟเขียวตั้ง "สนง.ทรัพยากรน้ำ"ขึ้นตรงนายกฯ

พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีมติใช้คำสั่งหัวหน้าคสช.ให้ดำเนินการจัดตั้งสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติขึ้น โดยให้ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ดูแลบูรณาการงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำ ทั้งเรื่องข้อมูล แผนงาน โครงการ งบประมาณ การติดตามประเมินผล และติดตามควบคุมการปฏิบัติงาน

สำหรับหน้าที่เดิมของหน่วยงานต่างๆ ยังปฏิบัติหน้าที่เดิมตามปกติ แต่อะไรที่เป็นเรื่องใหญ่ต่อการบริหารจัดการน้ำ เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ หรือแผนงานที่ต้องการบูรณาการ สำนักงานดังกล่าวจะเข้ามาบูรณาการงาน

"นายกฯ" ยัน รบ.นิ่งนอนใจ ปัญหาน้ำท่วม ใช้บทเรียนปี 54 เป็นแนวทางแก้ปัญหา

ขณะที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัด รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้เตรียมแผนตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยนำข้อมูลตั้งแต่ปี 2554 มาเปรียบเทียบและวางแผนแก้ปัญหาบริหารจัดการน้ำช เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมาก ส่วนพื้นที่นอกคันกั้นน้ำได้รับผลกระทบ หรือบางพื้นที่ท่วมคันกั้นน้ำ รัฐบาลก็จะมีมาตรการดูแลเยียวยา

ทั้งนี้อยากให้ทุกคนติดตามการประชาสัมพันธ์ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งสั่งเร่งระบายน้ำแย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่ต่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศขณะนี้ด้วยเนื่องจากมีฝนตกทุกวัน

กรมชลฯระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มอีก 2,700 ลบ.ม / วินาที

ด้าน พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมชลประทาน ได้เพิ่มระดับการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา จากเดิม 2,600 เป็น 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งระบายน้ำที่ไหลเขื่อนเจ้าพระยา โดยจะคงปริมาณน้ำให้อยู่ในอัตราไม่เกิน 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไปอีก 1 สัปดาห์ หากปริมาณน้ำเริ่มลดลงก็จะปรับระดับลงเป็นขั้นบันได

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้งแผนการช่วยเหลือระยะสั้นและยาว การฟื้นฟู ซึ่งทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เตรียมแผนช่วยเหลือ อาทิ การจ้างงาน กรณีไม่มีรายได้ช่วงนี้ เงินกู้ฉุกเฉิน อุดหนุนปัจจัยการผลิต ลดภาระดอกเบี้ย และอุดหนุนพันธุ์ข้าว โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ในโครงการแก้มลิง หรือทุ่งกักเก็บน้ำ เป็นต้น