คนงานเฝ้าอาคารเก็บผ้า หลานหลวงซอย 8 รับเป็นมือเผาอาคาร อ้างเมาประสาทหลอน คิดว่า จะมีคนมาทำร้าย ขณะที่ตำรวจตรวจไม่พบสารเสพติดและประวัติจิตเวช
นายสำรวย ไพศาล อายุ 44 ปี หนึ่งในคนงานที่ดูแลอาคารเก็บผ้า สูง 5 ชั้น ในซอยหลานหลวง 8 ที่ถูกไฟไหม้ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา หนึ่งในผู้รอดชีวิต ถูกพันตำรวจเอกเสนิต สำราญสำรวจกิจ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 คุมตัวมาสอบปากคำ และพบข้อพิรุธหลายอย่าง
กระทั่งยอมรับสารภาพว่า วันก่อเหตุได้ดื่มสุรา และเกิดอาการมึนเมา พร้อมทั้งเกิดการหลอนหูแว่วว่า มีคนจะมาทำร้าย จึงขึ้นไปด้านบนอาคารและจุดไฟ โดยอ้างว่า เพื่อเป็นการป้องกันตัว ก่อนที่ไฟจะลุกไหม้อาคารดังกล่าว จนทำให้เพื่อนคนงานอีก 2 คน ที่นอนพักอยู่ด้านบนเสียชีวิต
นายสำรวย เล่าว่า พอรู้สึกตัวก็พยายามนำน้ำมาดับไฟ แต่ไม่สามารถดับได้ทัน จากตรวจสอบไม่พบว่า มีสารเสพติดในร่างกาย รวมถึงไม่พบประวัติเป็นผู้ป่วยทางจิตแต่อย่างใด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาวางเพลิงเผาโรงเรือนผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และฝากขังในวันพรุ่งนี้ เวลา10.00 น.
ขณะที่ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ จากวิศวกรรมสถาน (วสท.) และกรุงเทพมหานคร ได้เข้าตรวจสอบเหตุ อาคารสูง 5 ชั้น โดยนายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. กล่าวว่า ตรวจสอบชั้นที่ 2 และ 3 บางส่วนพบว่า ขณะเกิดเพลิงไหม้น้ำที่ใช้ดับไฟ ไปเพิ่มน้ำหนักให้กับกองผ้า ทำให้พื้นของอาคารที่ชั้น 2 แอ่นลง แต่น่าจะสามารถซ่อมแซมพื้นผิวของอาคาร และสามารถกลับมาใช้อาคารได้ตามปกติ
ส่วนนายนพดล ฉายปัญญา ผอ.กองควบคุมอาคาร สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ระบุว่า เจ้าของอาคารจะต้องติดต่อ เพื่อให้วิศวกรเข้าตรวจสอบอาคาร และต้องแสดงแจ้งต่อสำนักการโยธา สำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายว่า ต้องการซ่อมแซมหรือทุบอาคารทิ้ง พร้อมตรวจว่า อาคารมีบันไดหนีไฟหรือไม่ หากไม่มีก็เข้าข่ายผิดกฏหมายควบคุมอาคาร