หลายจังหวัดจัดงานตักบาตรรับประเพณีลอยกระทง โดยที่ จ.สุโขทัย ประชาชนร่วมตักบาตร รับรุ่งอรุณแห่งความสุข ก่อนเริ่มงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ
นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นำประชาชนร่วมตักบาตรรับรุ่งอรุณแห่งความสุข เริ่มงานลอยกระทง ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 9 รูป ณ อุโบสถวัดตระพังเงิน ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเริ่มงาน “ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย” ระหว่างวันที่ 1-5 พฤศจิกายน
ส่วนที่จังหวัดลำปาง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานลำปาง เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือ ขอความร่วมมือประชาชนที่จะปล่อยโคมลอยลูกโป่ง พลุดอกไม้ไฟ จะต้องขอ และได้รับการอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่นั้นล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อน และจะต้องส่งรายละเอียด วัน เวลา สถานที่จำนวนโคมลอย และผู้ประสานงาน หลังที่ผ่านมาพบว่ายังมีผู้ลักลอบปล่อยโคมลอย สร้างความเสียหายให้กับการบิน
สำหรับในวันลอยกระทง กำหนดให้ปล่อยโคมลอยได้หลังเวลา 19.30 น. หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่น้ำในแม่น้ำโขง บริเวณหน้าเทศบาลตำบลบึงกาฬ ลดลงเร็วกว่าทุกปี ทำให้เกิดหาดทรายยาวหลายกิโลเมตร ประชาชนไม่สามารถลอยกระทงได้ ต้องเปลี่ยนสถานที่ให้ประชาชนไปลอยกระทง ในหนองน้ำสาธารณะบึงกาฬ ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่รองรับการลอยกระทงปีนี้
ส่วนกรุงเทพมหานคร พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ท่าน้ำวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร เขตบางกอกใหญ่ เพื่อตรวจความพร้อมตามแผนการรักษาความปลอดภัยและดูแลนักท่องเที่ยวในเทศกาลลอยกระทง
พร้อมกำชับนโยบายการรักษาความปลอดภัยตามมาตรการ "3 ห้าม 3 ควร 3 ไม่" คือ ห้ามเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด โคมลอย ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับขี่หรือโดยสารบนรถ
นอกจากนี้จะเข้มงวดในการจับกุมเด็กแว้นที่ฉวยโอกาสสร้างความเดือดร้อนในช่วงเทศกาล โดยผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกและยึดรถทันที