ผู้เสียหายจากคลินิกเสริมความงามเถื่อน แจ้งความเพิ่ม หลังอักเสบจากการเสริมจมูก ด้านเจ้าของคลินิกให้ปากคำตำรวจเพิ่ม พร้อมนำบัญชีธนาคาร 5 บัญชีมอบให้ตำรวจอายัดเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน
นางสาวจันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน อายุ 20 ปี เจ้าของคลินิกเสริมเถื่อน ในจังหวัดลำปาง เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีเปิดคลินิกเถื่อน และมี นายธนัชพงศ์ จิตรธีรภิรมย์ หรือ เบญแอบอ้างเป็นหมอดิว ศัลยกรรมหน้าอก สาวประเภทสองจนเสียชีวิต
โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจได้แจ้งข้อหา ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต
พร้อมกันนี้ นางสาวจันทร์จิราได้นำ สมุดบัญชีเงินฝากของคลินิก 5 เล่ม มาให้ตำรวจตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชี ขณะที่ ตำรวจชุดสืบสวน ได้นำโทรศัพท์มือถือ ของ นางสาวจันทร์จิรา ไปตรวจสอบการใช้งาน เพื่อดูการติดต่อสื่อสาร ในช่องทางต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงการติดตามตัว นายเบญ ผู้ต้องหาตามหมายจับ สภ.เขลางค์นคร ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา มาดำเนินคดี
ขณะที่ พันตำรวจเอก จิตตพล วงษ์วัน ผู้กำกับการ สภ.เขลางค์นคร บอกว่า พนักงานสอบสวนได้ขออายัดบัญชีคลินิกดังกล่าว 5 บัญชี เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน คาดว่า น่าจะมีผู้เสียหาย ที่โอนเงินให้กับคลินิกดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้มาทำศัลยกรรม หลายแสนบาท
พร้อมกันนี้ ได้จัดทีมสืบสวนลงพื้นที่ ติดตามหมอเถื่อนดังกล่าวแล้ว คาดว่า น่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้ หากใครมีเบาะแสของผู้ต้องหารายดังกล่าว หรือ เป็นผู้เสียหาย ให้มาพบพนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์นคร หรือโทรมาที่ 0-5420-9852
ขณะเดียวกัน จากการสอบถาม พนักงานคลินิกดังกล่าว ทราบว่า ยังไม่ได้รับเงินเดือน เดือนล่าสุด เพราะมาเกิดเรื่องเสียก่อน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน
ขณะเดียวกัน มีนายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาวจังหวัดลำปาง ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และเรียกร้องค่าเสียหาย หลังจากที่เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ได้ จ่ายเงินในราคา 8 พันบาท เพื่อไปทำศัลยกรรมจมูกที่คลินิกดังกล่าว แล้วมีอาการคัน มีตุ่มนูนบนสันจมูก คล้ายอักเสบ
นายเอ บอกว่า วันที่มาทำจมูก ขณะกำลังจะผ่าตัด ได้ยินหมอเถื่อนคนดังกล่าว พูดกับบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในห้อง จับใจความได้ว่า “ดูไว้ ดูไว้ ต่อไปถ้าไม่อยู่จะได้ทำเป็น อีกหน่อยก็จะได้ทำ เป็นรองผู้บริหารแล้ว”
ตนเองรู้สึกตกใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะเริ่มผ่าตัดแล้ว หลังจากทำไป ก็มีปัญหาดังกล่าว จึงคิดจะเอาซิลิโคนออก และไปปรึกษาแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่ง คิดค่าเอาซิลิโคนออก 5 พันบาท แต่ไม่มีเงินจึงมาแจ้งความ เพื่อขอเงินค่าเสียหายดังกล่าวคืน