รัฐบาลมั่นใจ โครงการช็อปช่วยชาติ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี ขณะที่บรรยากาศการเลือกซื้อสินค้าของประชาชน วันที่ 2 ที่ จ.นครราชสีมา ยังคึกคัก ส่วนใหญ่นิยมซื้อของใช้ประจำวัน
ประชาชนจำนวนมาก มาเลือกซื้อสินค้า ในโครงการชอปช่วยชาติของรัฐบาลวันที่ 2 คึกคัก โดยเฉพาะที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในจังหวัดนครราชสีมา ประชาชนต่างนำใบเสร็จ มายืนต่อคิวลงทะเบียนใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ร่วมโครงการชอปช่วยชาติจำนวนมาก
โดยในวันแรกเมื่อวานนี้ ประชาชนมาแลกซื้อสินค้า คิดเป็นสัดส่วนที่ใช้สิทธิร่วมโครงการ 70 เปอร์เซ็นต์ ประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช้สิทธิ 30 เปอร์เซ็นต์ สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นของกินของใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนสินค้าประเภทเสื้อผ้าและของฟุ่มเฟือยอื่นยังมีสัดส่วนน้อย คาดว่าประชาชนจะมาใช้สิทธิของฟุ่มเฟือยดังกล่าว ในช่วงท้ายๆโครงการหรือปลายปี
ส่วนมาตรการชอปช่วยชาติที่จังหวัดสกลนคร เริ่มคึกคัก มีประชาชน ออกมาเดินเลือกซื้อสิ่งของเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุด โดยนำใบเสร็จไปขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี นอกจากนี้ทางห้างสรพพสินค้าต่างๆร่วมกับกลุ่มผู้ขายสินค้า จัดกิจกรรมโปรโมชั่นลดคาราตั้งแต่ 50–70 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น คาดปีนี้เม็ดเงินจะสะพัดมากกว่าปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามบรรยากาศช็อปช่วยชาติวันที่ 2 ที่ร้านค้าในตัวจังหวัดอุบลราชธานี มีประชาชนเลือกซื้อสินค้า ได้แก่ของกินของใช้ตามปกติ และมีร้านค้าจัดรายการลดราคาสินค้า ทำให้มีลูกค้าใช้บริการเพิ่มมากขึ้น แต่ยังมาขอใบกำกับภาษีเพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษียังมีไม่มาก เนื่องจากลูกค้าบางส่วนยังไม่ทราบนโยบายรัฐบาล และอีกส่วนไม่สามารถนำไปยื่นขอใบกำกับภาษีได้ แต่คาดปลายปีลูกค้าจะมาขอใบกำกับภาษีเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางด้านเศรษฐกิจขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบว่า ประชาชนมองเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศปรับตัวดีขึ้น เป็นไปทิศทางที่ดี ทั้งเรื่องการใช้จ่ายของผู้บริโภค โอกาสการหางานทำ การใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว และ การลงทุนทำธุรกิจของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม
รัฐบาลมั่นใจว่ามาตรการนี้ จะก่อให้เกิดผลดีสำหรับทุกฝ่าย ทั้งส่วนของผู้จำหน่ายสินค้าและบริการที่จะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น ในช่วงเวลาที่รัฐบาลออกมาตรการ คือ ระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2560 ประชาชนทั่วไป สามารถนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีประจำปีได้ ในวงเงินไม่เกิน 15,000 บาท ขอให้ประชาชนจับจ่ายอย่างมีสติ เลือกซื้อสินค้าและบริการที่จำเป็น เพื่อได้รับประโยชน์มากที่สุด