กระทรวงสาธารณสุขยังไม่ตั้งคณะกรรมการสอบหมอยอร์น ผู้ต้องหาขับรถชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอาการสาหัส ขณะที่นายแพทย์ยอร์น เดินทางรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา

ความคืบหน้าคดีนายแพทย์ยอร์น จิระนคร สาธารณสุขนิเทศก์ เขต 12 ขับรถชนนายสมชาย ยามดี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กระทรวงสาธารณสุข ได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายแพทย์ยอร์น เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ตั้งแต่เวลา 10 นาฬิกา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนโดยมี พลตำรวจเอกวีระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมสอบปากคำด้วย

พลตำรวจเอกวิระชัย เปิดเผยภายหลังสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า นายแพทย์ยอร์น ยอมรับว่า ขับรถคันที่เกิดเหตุจริง แต่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาทั้ง 4 ข้อหา คือ ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งข้อหาพยายามฆ่าเป็นข้อหาที่แจ้งเพิ่มเติม เนื่องจากมีหลักฐานเป็นภาพวงจรปิดบันทึกได้ว่าหลังขับรถชนนายแพทย์ยอร์นไม่ได้หยุดรถในทันที แต่ได้ขับต่อทำให้ตัวนายสมชายถูกลากไปหลายเมตร รวมถึงพยานในที่เกิดเหตุที่ยืนยันพฤติการณ์ของผู้ต้องหาได้อย่างชัดเจน

โดยหลังสอบปากคำสื่อมวลชนพยายามสอบถามนายแพทย์ยอร์น ถึงประเด็นที่ให้ปากคำ แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ยอมตอบคำถามใดๆของสื่อมวลชน ก่อนจะขอทำเรื่องประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ สาธารณสุขนิเทศก์ เป็นหลักทรัพย์ประกันตัวไปตีราคา 5 แสนบาท

จากนั้นตำรวจได้พาทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บริเวณกระทรวงสาธารณสุข พบบริเวณขอบปูนมีรอยแตกร้าว ที่พื้นมีรอยครูดของประตูเหล็กเป็นทางยาว ซึ่งเกิดจากประตูเหล็กบิดออก

เพื่อน รปภ. เล่าว่า ไม่เคยเกิดเหตุการณ์รถชนประตูที่กระทรวงเลยสักครั้ง ในวันเกิดเหตุรถของนายแพทย์ยอร์นวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง จึงทำให้ประตูเหล็กซึ่งมีน้ำหนักมาก กระเด็นไปคนละทาง ยืนยันว่า ในช่วงกลางคืน บริเวณนี้มีไฟส่องสว่างมาก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมองไม่เห็น พร้อมขอให้ตำรวจทำคดีด้วยความยุติธรรม

ขณะที่ นางสาวปิติกาญจน์ สิทธิเดช อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เดินทางเข้าเยี่ยม นายสมชาย พร้อมระบุว่ากรณีนี้เป็นการได้รับการบาดเจ็บจากการทำงาน จะได้รับค่ารักษาพยาบาล วงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท และจะได้เงินชดเชยการขาดรายได้ ซึ่งอยู่ที่ประมาณวันละ 186 บาท หรือเดือนละ 4,836 บาท ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี แต่หากเกิดทุพพลภาพ จะได้รับเงินชดเชย 4,836 บาทระยะเวลา 15 ปี

ส่วนอาการบาดเจ็บ นายชัยณรงค์ นาคไทย พี่ชายนายสมชาย กล่าวว่าหลังจากพี่น้องชายได้เข้ารับการผ่าตัดที่ศรีษะ ผลการผ่าตัดออกมาเป็นที่น่าพอใจ แต่จะต้องรอดูอาการอีกสักระยะ ว่าแผลมีการติดเชื้อหรือไม่

สำหรับในเรื่องการดำเนินคดีกับนายแพทย์ยอร์นนั้น ตนเองไม่ได้กังวลอะไร เนื่องจากนายแพทย์ยอร์นไม่ได้หลบหนี และได้มีการพูดคุยกันในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งนายแพทย์ยอร์น ยินดีจะรับผิดชอบทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะที่ แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย ว่าขณะนี้ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย เพราะต้องรอกระบวนการทางกฎหมายก่อน