เตรียมแจ้งข้อหาหลบหนีไม่หยุดให้การช่วยเหลือ "หมอยอร์น" เพิ่มเติมวันพรุ่งนี้ ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ขณะที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง

พลตำรวจเอก วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรีนำรถยนต์ฮอนด้า สีขาวทะเบียน 2กฒ 7552 กรุงเทพมหานคร ของนายแพทย์ยอร์น จิระนคร สาธารณสุขนิเทศน์ เขต 12 ที่ขับรถชนนายสมชาย ยามดี พนักงานรักษาความปลอดภัยกระทรวงสาธารณสุข บาดเจ็บสาหัส มาจำลองเหตุการณ์บริเวณจุดเกิดเหตุ ใกล้กับสถาบันบำราษนรางดูล ในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และทัศนะวิสัยของรถคันดังกล่าว ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะไม่เห็นผู้บาดเจ็บ ตามคำให้การของนายแพทย์ยอร์น ที่อ้างว่า "ขับชนประตูเท่านั้น ไม่ทราบว่า"ขับรถชนคน" นอกจากนี้ยังตรวจสอบทัศนวิสัยในการมองเห็นว่ามีความชัดเจนเพียงใด เนื่องจากหมอยอร์น อ้างว่า มองไม่เห็น

ซึ่งทีมข่าวได้เก็บภาพโดยใช้กล้องบันทึกภาพแทนสายตาคนขับมองไปยังกระจกหน้ารถ จะเห็นว่า ฟิล์มที่ติดหน้ารถ ไม่ได้มืดจนยากต่อการมองเห็น สอดคล้องกับที่ พลตำรวจเอกวิระชัย ยืนยันว่า รถคันดังกล่าวไม่ได้ติดฟิล์มมืด และในคืนวันเกิดเหตุมีรถตามหลังมามีไฟหน้ารถส่งชัดเจน จึงเชื่อได้ว่าสามารถมองเห็นเหตุการณ์ได้ชัดเจน

ส่วนความเร็วของรถ เจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ต้องหาใช้ความเร็วมากพอสมควร แม้จะไม่เร็วเกินกฎหมายกำหนด แต่ก็สามารถทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังมีความพยายามหลบหนี จึงเตรียมแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทชนแล้วหลบหนีไม่หยุดให้การช่วยเหลือเพิ่มเติม

ส่วนคราบเลือด และเส้นผมที่เก็บได้จากรถคันดังกล่าว จะนำไปตรวจเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของผู้เสียหาย เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งในหลักฐานในการดำเนินคดี ขณะที่การตรวจสอบถุงลมนิรภัย และกล่องดำของรถ อยู่ระหว่างรอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไปตรวจสอบ

นอกจากนี้จะเรียกหมอยอร์น เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาหลบหนีไม่หยุดให้การช่วยเหลือที่ สภ.เมืองนนทบุรี ในวันพรุ่งนี้

ขณะที่ แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมกำชับทีมแพทย์โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าดูแลรปภ.ผู้บาดเจ็บอย่างดีที่สุด

ส่วนอาการของ รปภ. นายแพทย์สกล สุขพรหม ระบุว่า อาการยังทรงตัว โดยวัดชีพจรอยู่ในเกณฑ์ปกติ และพบคนไข้เริ่มมีอาการตื่นตัว บางครั้งสามารถทำตามที่สั่งได้ เช่นกระดิกนิ้ว ขยับแขนและขา แต่ยังไม่สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้ และต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU จนกว่าจะดีขึ้น

แจ้งข้อหาขับรถประมาทชนแล้วหลบหนี "หมอยอร์น" เพิ่มเติม