รักษาราชการแทนจเรตำรวจแห่งชาติ สั่งย้ายผู้กำกับ สภ.ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต และนายตำรวจรวม 10 นาย ก่อนสอบกรณีรับส่วยในพื้นที่ จ.ภูเก็ต คาดต้นสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนกับเรื่องนี้ พร้อมยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รักษาราชการแทนจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งที่ 41/2560 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยอ้างคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 499/2560 ลงวันที่ 29 กันยายน 2560 และ คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 623/2560 ให้ตำรวจ 4 นาย ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้ขาดจากตำแหน่งเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ตำรวจทั้ง 4 นาย ประกอบด้วย
1.พันตำรวจเอก ทัศนัย โอฬาริกเดช ผู้กำกับการ สภ.ป่าตอง กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
2.ดาบตำรวจหญิง ศรีสุดา เมืองแก้ว รองสารวัตรกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์
3.ดาบตำรวจ จักรฐิพนธ์ นาคพงศ์ภัค ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์
4.ดาบตำรวจ วรฉัตร ทัพพุน ผู้บังคับหมู่กองกำกับการงานจราจร สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต
ก่อนหน้านี้ พลตำรวจเอกสุชาติ ได้ลงนาม เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ให้ย้ายตำรวจ 6 นาย ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้ขาดจากต้นสังกัดเดิม ไป ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย โดยตำรวจทั้ง 6 นาย ประกอบด้วย
1.พันตำรวจโท สุระศักดิ์ ใจดี สารวัตรกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 จังหวัดภูเก็ต (สว.ตม.6 จว.ภูเก็ต)
2.พันตำรวจโท เทียนชัย ชมภู สารวัตรกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 จังหวัดภูเก็ต (สว.ตม.6 จว.ภูเก็ต)
3.ร้อยตำรวจเอก นิมิต สุขประเสริฐ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน 1 กองบังคับการสืบสวน
สอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 (รองสว.กก.สส.1 บก.สส.ภ.8)
4.ร้อยตำรวจเอก อดุลย์ บุญราช รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.ป่าตอง (รอง สว.ปป. สภ.ป่าตอง)
5.ดาบตำรวจ พรประสิทธิ์ แว่นทอง ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน สภ.ป่าตอง ( ผบ.หมู่ งานสืบสวน สภ.ป่าตอง)
6.ดาบตำรวจ พงษ์เพชร จันทรัตน์ ผู้บังคับหมู่ฝ่ายอำนวยการตรวจคนเข้าเมือง 6 (ผบ.หมู่ ฝ่ายอำนวยการ ตม.6)
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ก็ได้มีคำสั่งให้ พันตำรวจเอก ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ อดีต ผู้กำกับการ สภ.ป่าตอง พร้อมด้วย พันตำรวจโทสมศักดิ์ ทองเกลี้ยง รอง ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.ป่าตอง ไปช่วยราชการที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 8 ด้วยเช่นกัน
โดย พลตำรวจเอกสุชาติ (รักษาราชการแทนจเรตำรวจแห่งชาติ) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับมอบหมายให้เข้าไปร่วมตรวจสอบ และสืบสวนกรณีการร้องเรียนเรื่องส่วย 100 ล้านบาท ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งพบว่าข้อเท็จจริงมีมูล โดยมีหลักฐานคำให้การผู้ประกอบการ ภาพวงจรปิด และการโอนเงินที่โยงใยไปถึงตำรวจจำนวนหนึ่ง จึงมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย พร้อมทั้งย้ายเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวให้พ้นจากหน้าที่ และออกนอกพื้นที่ไปชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้มีการสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการทั้งทางวินัย และอาญา ซึ่งคาดว่า ภายในต้นสัปดาห์หน้า คงจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้ โดยตนจะเป็นผู้ชี้แจงให้ประชาชนและทุกฝ่ายได้รับทราบเอง
ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนมีอำนาจหน้าที่ในการออกคำสั่งนี้ แต่หากผู้เกี่ยวข้องในคำสั่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้ไปฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้เลย ส่วนกรณีที่มีความพยายามโยงใยว่าเป็นความขัดแย้งของนายตำรวจผู้ใหญ่กับตำรวจในพื้นที่ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน แต่เป็นการย้ายตำรวจที่ตรวจสอบพบว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ร้องเรียน และพบว่าพยานหลักฐานมีมูลที่ต้องสืบสวนสอบสวนต่อไป
นอกจากกรณีส่วยดังกล่าว ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า รักษาราชการแทนจเรตำรวจแห่งชาติ เพิ่งมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจใน จ.ภูเก็ต 68 นาย เนื่องจากพบว่า อาจมีส่วนพัวพันกับการจับกุมตัวชาวต่างชาติถึง 1,730 ราย แต่กลับไม่ยอมส่งตัวให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผลักดันออกนอกประเทศ โดยทั้ง 68 นาย มีตั้งแต่ระดับ ผู้กำกับการ รองผู้กำกับการ สารวัตร และรองสารวัตร ในสถานีตำรวจ 10 แห่งจากที่มีอยู่ 11 แห่งใน จ.ภูเก็ต โดยพบว่า สภ.ป่าตอง เป็นสถานีตำรวจที่มีการปล่อยปละละเลยเรื่องนี้มากที่สุด