นักวิชาการโพสต์เตือนการเลี้ยงปูเสฉวนที่จับจากธรรมชาติเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์และทำลายระบบนิเวศชายฝั่ง ขณะที่ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่สำรวจตลาดสัตว์เลี้ยง พบว่ามีปูเสฉวนจากธรรมชาติถูกวางขายจริง
จากกรณีที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองอธิบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่ามีคนถามถึงการเลี้ยงปูเสฉวน ซึ่งเริ่มเป็นที่นิยมอีกครั้งโดยเฉพาะในตลาดปลาสวยงามที่วางขายกันอย่างเปิดเผย
โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรณ์ระบุว่าแม้ปูชนิดนี้จะไม่ใช่สัตว์คุ้มครอง แต่การจับมาเลี้ยงในปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆอาจกระทบกับระบบนิเวศน์และเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาขยายพันธุ์ หากความนิยมในการเลี้ยงเพิ่มขึ้นก็อาจทำให้สัตว์ชนิดนี้สูญพันธุ์ได้ เช่นเดียวกับปลาการ์ตูนที่เคยมีการจับจากธรรมชาติมาเลี้ยงจนเหลือปริมาณปลาในธรรมชาติลดลง
ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่สำรวจตลาดขายสัตว์เลี้ยงสวยงามแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร พบว่าบางร้านนำปูเสฉวนมาขายร่วมกับสัตว์น้ำสวยงามประเภทอื่น กำหนดราคาตั้งแต่ 30-300 บาทตามขนาดของปู เจ้าของร้านยืนยันว่าปูที่นำมาขายมาจากธรรมชาติทั้งหมด โดยรับซื้อต่อมาจากแม่ค้าคนกลางซึ่งต้นทางมาจากชายหาดทางภาคใต้ พร้อมระบุว่าปูเสฉวนกำลังเป็นที่นิยมในช่วง2-3 เดือนที่ผ่านมา
ขณะที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก Healthy Reefs Club เปิดเผยข้อมูลว่ามีการเชิญชวนให้คนจับปูเสฉวนพร้อมระบุว่าสามารถสร้างรายได้สัปดาห์ละ 10,000-20,000 บาท
ข้อมูลจากกลุ่ม “คนรักคนเลี้ยงปูเสฉวนบก" ระบุว่า ปูเสฉวนตามธรรมชาติมี 2 ชนิด คือ ปูเสฉวนบกกับปูเสฉวนน้ำ ซึ่งทั้ง 2 ชนิดไม่สามารถเพาะพันธุ์ได้ จึงใช้วิธีจับมาจากธรรมชาติ
อายุในธรรมชาติจะอายุยืนสูงสุดถึง 30-60 ปี แต่เมื่อถูกนำมาเลี้ยงอาจอยู่ได้แค่ 1 วันหรือ 10 ปี ปูเสฉวนจะเติบโตด้วยการลอกคราบ หลายครั้งที่ผู้เลี้ยงดูแลไม่เหมาะสมแล้วตายลงในระหว่างการลอกคราบ
นอกจากนี้ในธรรมชาติปูเสฉวนจะกินเศษอาหาร เศษพืช ซากสัตว์ที่อยู่ตามหาดทราย ส่วนในระบบเลี้ยงผู้เลี้ยงมักให้ ผลไม้ ผัก เนื้อไก่ เนื้อหมู ขนมปัง หรือ อาหารกุ้ง ส่วนมากนิยมให้กิน แอปเปิ้ล แก้วมังกร เนื้อไก่ เนื้อปลา เนื้อกุ้ง อาหารแมว จึงทำให้ปูเสฉวนมีอายุสั้นลง