รองโฆษกอัยการสูงสุดระบุ คดีครูจอมทรัพย์ ศาลชี้ชัดในคำพิพากษาเป็นขบวนการว่าจ้างรับผิด ไม่ใช่ "เเพะ" เข้าข่ายเบิกความเท็จ มีความผิดอาญา
นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีคำพิพากษาของศาลฎีกา ที่ยกคำร้องการขอรื้อฟื้นคดีอาญาในคดีนางจอมทรัพย์ เเสนเมืองโครต อดีตครูโรงเรียน จังหวัดสกลนคร ที่ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า
เมื่อศาลฎีกาได้ยกคำร้องของนางจอมทรัพย์ ย่อมเป็นการยืนยันว่า คำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีที่พิพากษาลงโทษจำคุก เป็นเวลา 3 ปี 2 เดือน ในข้อหาขับรถโดยประมาทชนผู้อื่นตาย เเละหลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ หรือเเจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ทันที ซึ่งครูจอมทรัพย์ได้รับโทษออกมาเเล้ว เป็นคำพิพากษาที่ถูกต้องทุกประการ หรือสรุปสั้นๆ คือ นางจอมทรัพย์ไม่ใช่เเพะ ตามที่เป็นข่าว
ศาลฎีกายังวินิจฉัยไว้คำพิพากษาว่า มีขบวนการว่าจ้าง ให้นายสับ วาปี มาสมอ้างว่า เป็นคนขับรถชนผู้ตาย ซึ่งเข้าข่ายมีความผิดฐานเบิกความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา177 ได้ ซึ่งความผิดฐานเบิกความเท็จมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี
ด้านพลตำรวจตรีสุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ได้ตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับการคลี่คลายคดีของนางจอมทรัพย์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการให้ข้อมูล และหลักฐานเท็จ ขณะนี้ มอบหมายให้ชุดทำงาน แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เรณูนคร เพื่อเอาผิดกับบุคคลที่แจ้งความเท็จแล้ว