ทหารเรือใช้เครื่องมือติดตามเรือประมง จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาหนีคดีฆ่าคนตาย ที่แอบมาทำงานเป็นลูกเรือประมง ได้สำเร็จ

กองทัพเรือภาคที่ 2 นำตัวนายเอกศักดิ์ แก้วเก้า อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนหลบหนีมาทำงานในเรือประมงที่จังหวัดสงขลา กลับเข้าฝั่งบริเวณท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา หลังจับตัวได้บนเรือประมงที่ออกทะเลไป ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 2 นำเรือ ต.944 ไปปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนทางทะเล ในพื้นที่เขตรอยต่อสงขลา-ปัตตานี ก่อนจะพบเรือที่ผู้ต้องหลบหนีมาทำงานเป็นลูกเรืออยู่ จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจค้า และจับกุมตัว

ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ เกิดขึ้นได้ด้วยการที่ทหารเรือใช้เครื่องมือในการติดตามเรือประมงต้องสงสัย ตามที่ได้รับแจ้งมาว่า มีผู้ต้องหาหนีคดีหลบซ่อนอยู่ จนกระทั่งตามเรือประมงที่กำลังหาปลาอยู่กลางทะเลได้พบ และจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว

และหลังจากนี้ จะประสานตำรวจน้ำปากพนัง เดินทางมารับตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ขณะกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องของจังหวัดตรัง ออกสุ่มตรวจสภาพการทำงานของลูกจ้าง และสภาพการจ้างงานของสถานประกอบการเรือประมงกลางทะเลว่า มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดหรือไม่

เช่น การทำสัญญาจ้างการทำทะเบียนลูกจ้าง หลักฐานการจ่ายเงินค่าจ้างหลักฐานบันทึกการพักงานในงานประมงทะเล ใบอนุญาตประกอบการเรืออาชญาบัตรเรือว่าถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิตต่างๆ เพื่อป้องกันการลักลอบการใช้แรงงานประมงในทะเล ในลักษณะการค้ามนุษย์และป้องกันการร้องเรียนของแรงงานประมงตามมา

โดยเรียกตรวจเรือประมงพาณิชย์ ขนาดตั้งแต่ 30 ตันกรอสขึ้นไป ที่ผ่านเข้าออกบริเวณร่องน้ำทะเลตรัง บ้านนาเกลือ ตำบลกันตังใต้ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง

จากการตรวจสอบ ไม่พบการใช้แรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และไม่พบการใช้แรงงานบังคับและค้ามนุษย์ และเรือทุกลำ มีทะเบียนลูกจ้างทะเบียนเวลาพัก ลงเวลาทุกวัน สัญญาจ้างแรงงานถูกต้องครบถ้วน

ใช้เครื่องมือติดตามเรือประมงจนจับผู้ต้องหาฆ่าคนตายได้สำเร็จ