สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ขยายเวลาเข้าชมนิทรรรศการพระเมรุมาศ จนถึง 31 ธ.ค.นี้ เพื่อให้ประชาชน และผู้ที่อยู่ในท้องถิ่นห่างไกล มีโอกาสเข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการอย่างทั่วถึง

พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้จัดนิทรรศการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และ นิทรรศการพระราชกรณียกิจ ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง โดยเปิดให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 2 – 30 พ.ย.60 เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและศึกษาข้อมูลพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรม และ ในขณะนี้ยังมีประชาชนให้ความสนใจเดินทางเข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่องทุกวัน นั้น

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระมหากรุณาธิคุณ ที่จะให้ประชาชน เยาวชน และผู้ที่อยู่ในท้องถิ่นห่างไกลมีโอกาสเข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการอย่างทั่วถึง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ขยายเวลาการเข้าชมไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.60

ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานพระราชานุญาตในครั้งนี้ เพราะพระองค์ท่านทรงทอดพระเนตรเห็นความรักและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพสกนิกรทุกคนที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการได้ต่อเนื่องอีก 1 เดือน

สำหรับการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนนั้น รัฐบาลได้ปรับเวลาเปิดจุดคัดกรองและเต็นท์นั่งพักรอให้เร็วขึ้น เริ่มตั้งแต่เวลา 05.00 น. และเปิดให้เข้าชมรอบแรกประมาณ 06.00 น. โดยมีจุดคัดกรองทั้งสิ้น 5 จุด คือ 1. บริเวณหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (รด.) 2. ถนนด้านท่าช้าง 3. ถนนด้านพระแม่ธรณีบีบมวยผม 4. หลังกระทรวงกลาโหม และ 5. ด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยขอความร่วมมือประชาชนแต่งกายสุภาพและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

สำหรับยอดจำนวนผู้เข้าชมพระเมรุมาศ ตั้งแต่วันที่ 2–28 พฤศจิกายน รวมทั้งสิ้น จำนวน 27 วัน มีประชาชนเข้าชมแล้ว 2,387,800 คน แบ่งเป็น พระสงฆ์ สามเณร 13,723 รูป ผู้พิการ 44,763 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 11,726 คน สื่อมวลชน 1,367 คน ประชาชน 1,791,162 คน และนักเรียน/นักศึกษา 525,095 คน