หลายพื้นที่จัดกิจกรรมดูฝนดาวตกเจมินิดส์ ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก เช่นที่ จ.เชียงใหม่ บริเวณยอดดอยอินทนนท์ฟ้าเปิด ประชาชนเห็นฝนดาวตกเจมินิดส์ สมใจ โดยครึ่งชั่วโมงแรกนับได้กว่า 35 ดวง

กลางดึกที่ผ่านมา ประชาชนกว่า 120 คน พากันเดินทางขึ้นไปบนยอดดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ จุดสูงที่สุดของประเทศไทย เพื่อเฝ้าชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ ปรากฏการณ์บนฟากฟ้าส่งท้ายปี ซึ่งสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หรือ สดร. จัดกิจกรรม "เปิดฟ้าตามหาดาว พาชมฝนดาวตกเจมินิดส์" พร้อมนำกล้องโทรทรรศน์หลายขนาดมาติดตั้ง บนยอดดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นจุดที่ท้องฟ้าดีที่สุดในประเทศไทยให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ชมกลุ่มดาวต่างๆ รวมทั้งกาแลคซี่เพื่อนบ้าน โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาบรรยายให้ความรู้

ขณะที่ประชาชนต่างนำผ้าห่มมาห่มนอนบนลานบนยอดดอย ซึ่งโชคดีที่สภาพอากาศเป็นใจ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง โดยฝนดาวตกลูกแรกที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 20.00 น. เรียกเสียงเฮจากผู้เข้าชมเป็นอย่างมาก ขณะที่ครึ่งชั่วโมงแรกนับฝนดาวตกที่มองเห็นได้ 35 ดวง

สำหรับฝนดาวตกเจมินิดส์สามารถมองเห็นได้ในช่วงวันที่ 4 -17 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการตกสูงสุดถึง 120 ดวงต่อชั่วโมง โดยนอกจากฝนดาวตกเจมินิดส์ แล้วในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ยังมีฝนดาวตกชุดอื่นให้ชมกันอีก เช่นฝนดาวตกเออร์ซิดส์ ในคืนวันที่ 22 ธันวาคม อัตราการตก 10 ดวงต่อชั่วโมง ถือเป็นเดือนส่งท้ายปีที่เหมาะแก่การสังเกตการณ์ฝนดาวตกเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนที่บริเวณสวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติ ริมแม่น้ำน่าน เขตเทศบาลนครพิษณุโลก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก มีประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ออกมาเฝ้าชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นสบาย ซึ่งแม้ว่าสภาพแสงสว่างในเขตตัวเมืองจะมีมากแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค เนื่องจากสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งจะพบเห็นฝนดาวตกเป็นระยะๆ ทั้งจากทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

ขณะที่ผู้ที่มาชมฝนดาวตกต่างดีใจที่ได้มาเฝ้าชมปรากฏการณ์ในครั้งนี้ และ เห็นฝนดาวตกด้วยตาเปล่า

ส่วนที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนนมพรรษา นครราชสีมา ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ตำบลสุนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา มีประชาชนพาครอบครัวเดินทางมาชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ "ฝนดาวตกเจมินิดส์" กันอย่างคึกคัก โดยทางหอดูดาวฯ ได้จัดสถานที่บริเวณโดยรอบอาคารดูดาว พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ของหอดูดาวให้ความรู้เกี่ยวกับดวงดาวต่างๆ และ ระบบสุริยะจักรวาล และ เปิดให้ใช้กล้องส่องดูกลุ่มดาวต่างๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชน เข้าแถวส่องดูดาวกันอย่างเนืองแน่น

นายเฉลียว บรรจงปรุ ประชาชนที่มาดูฝนดาวตกในครั้งนี้ บอกว่า ตนเองพาครอบครัวมาจับจองพื้นที่บริเวณสนามหญ้าข้างอาคารหอดูดาว เพื่อปูเสื่อนอนดูปรากฏการณ์ฝนดาวตกในค่ำคืนนี้ โดยคาดหวังว่า จะได้เห็นด้วยตาตนเอง เพราะนานๆ ครั้งจะเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างนี้ โดยตนเองอยากให้ลูก-หลานได้ซึมซับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ที่มีอะไรให้ศึกษาเรียนรู้มากมายไม่รู้จบ

ซึ่งครั้งนี้ก็ถือว่าโชคดีที่ฟ้าเปิด และ เป็นวันพระจันทร์แรม จึงคาดหวังว่าจะได้เห็นฝนดาวตกอย่างเต็มที่ เพราะ ปรากฏการณ์ฝนดาวตกถือว่าหาชมได้ยาก ถ้าใครได้ชมแล้ว จะรู้ว่ามีความสวยงามประทับใจมากแค่ไหน

ส่วนที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ประชาชนจำนวนมาก ต่างพากันเดินทางมาเฝ้ารอชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ และ เข้าร่วมกิจกรรมทางด้านดาราศาสตร์ ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ในช่วงหัวค่ำ

ซึ่งทุกคนต่างจับจองพื้นที่ของลานดูดาวแห่งนี้ เพื่อนอนดูฝนดาวตกพร้อมส่งเสียงดีใจเป็นระยะ หลังเห็นปรากฏการณ์ฝนดาวตกที่มีเฉดสีต่างๆตกลงมาจากท้องฟ้า ขณะที่อัตราการตกของฝนดาวตกชุดนี้ สามารถนับได้จำนวนกว่า 80 ดวง ในช่วงระหว่างเวลา 21.00-23.00 น.จึงเฉลี่ยอัตราการตกได้ประมาณ 40 ดวงต่อชั่วโมง และ มีหลากหลายสี โดยลูกไฟมีขนาดใหญ่พอสมควร

หลายพื้นที่จัดกิจกรรมดูฝนดาวตกเจมินิดส์