เกิดเหตุไฟไหม้เรือประมงเวียดนามของกลาง ที่จอดลอยลำผูกติดกับเสาหลักในทะเลสาบสงขลา ล่าสุด ไฟยังปะทุต่อเนื่อง เพราะมีลมพัดแรงตลอดเวลา

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกองพิสูจน์หลักฐาน 9 ลงตรวจสอบซากเรือประมงเวียดนามของกลาง จำนวน 6 ลำ ที่ถูกไฟไหม้เสียหาย และพบจมน้ำอีก 1 ลำ หลังทางกองทัพเรือภาคที่ 2 ยึดได้จากผู้ที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย จอดลอยลำผูกติดกับเสาหลักในทะเลสาบสงขลา ห่างจากฝั่ง 2 กิโลเมตร

เบื้องต้น พบว่าไฟไหม้เชือกที่โยงระหว่างเรือแต่ละลำ ทำให้เชือกขาดและเรือลอยไปตามน้ำ โดยยังมีไฟลุกไหม้อยู่บ้าง จึงไม่สามารถขึ้นไปตรวจสอบบนเรือได้

พันตำรวจเอกอลงกรณ์ สีมาวุธ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุ เทศบาลนครสงขลา รวมทั้งตำรวจน้ำไม่มีเรือดับเพลิง จึงไม่สามารถที่จะดับไฟไหม้เรือได้ทัน ต้องปล่อยให้ไฟไหม้เรือแล้วดับไปเอง ซึ่งช่วงนี้ลมกระโชกแรงตลอดเวลา ยิ่งช่วยให้ไฟปะทุต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว บอกว่า ช่วงกลางคืนจะมีนักตกปลาหลายคน นำเรือออกไปจอดตกเบ็ดบนเรือประมงเวียดนามเกือบทุกคืน เนื่องจากช่วงนี้มีปลาดุกทะเลชุกชุม อาจทิ้งก้นบุหรี่ที่ยังดับไม่สนิท ลงไปในเรือโดยไม่ได้ตั้งใจ อาจเกิดลุกไหมได้