พ่อแม่ "เก่ง" ว่าที่เจ้าบ่าวบุกยิง "หมอปอ" เข้าเยี่ยมลูกชาย ยันกู้เงินแต่งงานเอง ขณะที่ตำรวจยังคุมตัวสอบเข้ม ยังไม่แจ้งข้อหากิ๊กสาว
นายรณชัย ปานชาติ หรือ "เก่ง" เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหลังสวน ยังถูกคุมตัวไว้ที่ตำรวจภูธรสลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม หลังก่อเหตุฆ่านางสาว นนทิญา ครัวจัตุรัส หรือ "หมอปอ" เจ้าหน้าที่ทันตสาธารณสุข ว่าที่เจ้าสาวของตัวเองเสียชีวิต ในบ้านพักหลังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสลุย เมื่อ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากตำรวจยังสงสัยในหลายประเด็น
พร้อมกันนี้ต้องเร่งหาความเชื่อมโยงกับกิ๊กสาวว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ หลังนายเก่งซัดทอดว่าเป็นคนขับรถพาไปรับและส่ง รวมทั้งหาอาวุธให้ เบื้องต้นพบจุดทิ้งปืนแล้ว อยู่ระหว่างประสานให้นักประดาน้ำไปงมหา
ส่วนกรณีพ่อแม่ของหมอปอ ประกาศว่าจะไม่ยอมเผาศพลูก เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากตำรวจยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหากิ๊กสาว เพียงกันไว้เป็นพยานเท่านั้น พันตำรวจเอกสำราญ มาเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ยืนยันว่าตำรวจทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา หากหลักฐานสาวไปถึงใครจะต้องถูกดำเนินคดี ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้หญิง
คดีนี้แม้ตำรวจจะจับผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมการก่อเหตุ เพราะของครอบครัวหมอปอและคนใกล้ชิด ระบุว่า ช่วยเหลือนายรณชัยมาตลอดทั้งเรื่องส่งเรียนและฝากทำงาน ไม่คิดว่าจะก่อเหตุเช่นนี้
นายเชาว์ ครัวจตุรัส พ่อหมอปอ ระบุว่า อยากให้ลงโทษคนร้ายให้ถึงที่สุดด้วยการประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกัน ส่วนทองและสมุดบัญชีที่หายไป อยากตำรวจช่วยสืบสวนด้วยว่าเงินทั้งหมดและทองคำไปอยู่ที่ไหน แต่ขอบคุณตำรวจที่สามารถตามจับกุมคนร้ายได้โดยเร็ว
ด้านนางยุพเยาว์ และนายวินัย ปานชาติ พ่อและแม่ ของนายรณชัย ผู้ต้องหา ได้เดินทางจาก จ.บุรีรัมย์ มาเยี่ยมลูกชายใช้เวลาประมาณ 10 นาที เมื่อทั้งสองฝ่ายเจอหน้ากันถึงกับร้องไห้ พร้อมเปิดเผยว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร เพราะลูกชายเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด แต่ช่วงหลังรู้ว่าทั้งสองคนมักจะมีปากเสียงทะเลาะกันบ่อย
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าครอบครัวฝ่ายหญิงส่งเสียให้เรียนและฝากเข้าทำงาน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ส่วนทอง 10 บาท เงิน 4 แสนบาท ลูกชายเป็นคนไปกู้มาเอง มีหลักฐานการกู้ จึงอยากขอความเป็นธรรมให้ลูกด้วย
เบื้องต้นตำรวจยังต้องคุมตัวไว้สอบปากคำ และในวันพรุ่งนี้ (22 ธันวาคม) จะคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขังระหว่างดำเนินคดีต่อไป