รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระบุวันที่ 31 ธันวาคมนี้ จะเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้ประชาชนเข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศ โดยเตรียมรื้อย้ายพระเมรุมาศกลางเดือนมกราคม 2561 ก่อนเคลื่อนไปเก็บพิพิธภัณฑ์คลอง 5 และที่สำนักช่างสิบหมู่
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานนิทรรศการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรว่า ตลอด 1 เดือน 22 วันที่ผ่านมา มีประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการฯ กว่า 3,370,000 คน
โดยจะเปิดให้เข้าชม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ซึ่งในวันที่ 30-31 ธันวาคม 2560 ที่ถือเป็นวันสุดท้ายที่จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กรมศิลปากรจะจัดแสดงโขนครั้งใหญ่ โดยเริ่มแสดงตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป
ส่วนการรื้อย้ายพระเมรุมาศจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ พระที่นั่งทรงธรรม / ศาลาลูกขุน 4 หลังทับเกษตร / บุษบกสรรค์สร้าง จะย้ายไปยังพิพิธภัณฑ์คลอง 5 รังสิต ที่ทางกระทรวงวัฒนธรรมได้รับมอบหมายให้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์ถาวร เพื่อจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ส่วนศาลาลูกขุนอีก 2 หลังจะเคลื่อนย้ายไปไว้ที่ สำนักช่างสิบหมู่ จังหวัดนครปฐม ในส่วนของต้นไม้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ต้นไม้หลัก ๆ / ไม้ดัดที่ยืมมา จะนำกลับไปยังสวนนงนุช / ส่วนไม้ล้มลุก ไม้ประดับ จะย้ายไปจัดงานบริเวณลานพระที่นั่งดุสิต สนามเสือป่า และการรื้อย้ายสถาปัตยกรรม ประติมากรรม โครงสร้างพระเมรุมาศ ทั้งหมดจะเริ่มเคลื่อนย้ายได้ ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมเป็นต้นไป
ขณะที่เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.)ประชาชน คณะนักเรียน / นักศึกษา ทั้งจากในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด ยังคงเดินทางมาเข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กันอย่างต่อเนื่อง โดยให้เวลารับชมนิทรรศการประมาณ 45-60 นาที ก่อนให้ออกจากพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนชุดต่อไปได้เข้าชมความงดงาม
โดยกองงานอนุกรรมการ ฝ่ายบริหารจัดการ นิทรรศการ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรได้สรุปยอดประชาชนที่เดินทางเข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศรวม 50 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน - 21 ธันวาคม 2560 มีประชาชนเช้าชมจำนวนทั้งสิ้น 3,376,506 คน