จากคำพูดของนายกฯ ที่ระบุว่า หากยังขัดแย้งอาจไม่มีการเลือกตั้ง ทำให้บรรดานักการเมืองยังไม่มั่นใจว่า จะมีการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.ปี 61 หรือไม่ แต่เชื่อว่าหากเลื่อนเลือกตั้งจริงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ และ คสช. จะต้องรับผิดชอบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปี 2561 ว่า ปีนี้ถือเป็นปีสุดท้ายตามโรดแมปการทำงานของคสช.ที่กำหนดว่า จะต้องมีการเลือกตั้งปลายปี 2561 ยกเว้นแต่จะมีการคว่ำกฎหมายลูก และถ้าไม่มีการเลือกตั้งในปี 2561 ตามที่ประกาศไว้ คสช.ต้องรับผิดชอบ
ที่ผ่านมาสังคมไทยให้โอกาสคสช. ตลอด ทั้งที่ปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงมาก แต่ประชาชนอดทนและเห็นแก่ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ดังนั้นอย่าให้สิ่งที่ประชาชนอดทนและให้โอกาสสูญเปล่า
ส่วนการปฏิรูปของ คสช. ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า ยังไม่สำเร็จ เพราะถ้าจะปฏิรูปต้องลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน และสร้างการมีส่วนร่วม ดังนั้นปีสุดท้ายนี้ คสช.ต้องทำให้เรื่องหลักการปฏิรูปมีความชัดเจน และดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ระบุว่าหากสถานการณ์ยังขัดแย้งอาจจะไม่มีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561ว่า
ไม่ทราบว่าที่นายกฯพูดเช่นนั้นเพราะอะไร แต่ขณะนี้ยังสถานการณ์ยังไม่แน่นอน และแม่น้ำสายต่างๆยังไม่นิ่ง เพราะยังมีการใช้มาตรา 44 แก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง จากสัญญาณต่างๆจากคสช.และแม่น้ำสายต่างๆ ทำให้สถานการณ์ยังคงไม่นิ่งเต็ม 100%
ขณะที่นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า กรณีที่นายกฯ ระบุว่าถ้าสถานการณ์ยังไม่สงบอาจจะไม่มีการเลือกตั้งในปี 2561 นั้น หากเป็นการพูดผ่านรายการศาสตร์พระราชาฯ จะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะถือว่า สื่อสารกับประชาชนทั้งประเทศ แต่ถ้าเป็นการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว คิดว่า คงไม่มีอะไร อาจเป็นลักษณะกลอนพาไปมากกว่า
แต่คิดว่า การจะเลื่อนเลือกตั้งออกไปคงเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องยึดตามโรดแมป หากเลื่อนเลือกตั้งจริงถือว่า เป็นเรื่องใหญ่ และอาจต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นมั่นใจว่า การเลือกตั้งน่าจะยึดตามเดิมคือเดือนพฤศจิกายนปี 2561
ส่วนนายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2560 เช่น การใช้อำนาจมาตรา 44 แก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง ทำให้เกิดความกังวลว่า สถานการณ์การเมืองในปี 2561 ที่เป็นช่วงเวลาที่จะมีการเลือกตั้ง อาจเกิดอุปสรรค ไม่ราบรื่นจากการเขียนกฎกติกา ที่ไม่ถูกต้อง
เพราะเป็นการเขียนกฎหมายไปตามธงที่วางไว้โดยมีอคติ ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม ส่งผลให้มีปัญหากับในทางปฏิบัติ ทั้งนี้ตนยังไม่กล้าฟันธงว่า จะมีการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปี 2561 เพราะเห็นว่า ยังไม่มีความชัดเจนและเห็นว่ายังมีอะไรที่ผิดปกติอยู่มาก โดยเฉพาะเรื่องกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง