อุณหภูมิที่แปรปรวน ได้ส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน โดยเฉพาะไก่ไข่
สภาพอากาศเกิดการแปรปรวน เปลี่ยนแปลงโดยฉับพลัน ได้ส่งผลกระทบกับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะไก่ไข่ ของชาวบ้าน ในตำบลน้ำคำ อำเภอเมืองศรีสะเกษ ที่ปรับตัวไม่ทัน เกิดอาการช๊อค ตายไปหลายตัว
เจ้าของฟาร์มไก่ บอกว่า ช่วงนี้อุณหภูมิในแต่ละวันไม่คงที่ ทำให้ไก่ออกไข่ลดลง บางตัวไม่ออกไข่เป็นสัปดาห์ และตายลง จึงต้องให้ยาเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น พร้อมใช้ผ้าใบปิดล้อมรอบฟาร์มไก่ เพื่อช่วยป้องกันลม รวมทั้งวัวที่เลี้ยงไว้ก็มีป่วยบ้าง อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาจังหวัดศรีสะเกษ แจ้งว่า สภาพอากาศวันที่ 9 – 13 มกราคมนี้ ประเทศไทยรวมทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิลดต่ำลงอีก 1-2 องศา ประชาชนควรรักษาสุขภาพ และติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี ปลาในกระชังริมแม่น้ำมูล บ้านท่าลาด อำเภอวารินชำราบ เกิดน็อคน้ำ เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน และน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ปลาเลี้ยงในกระชังตายไปกว่า 5 ตัน ความเสียหายประมาณ 3 แสนบาท
เกษตรกรเลี้ยงปลากระชัง ต้องเร่งนำเครื่องฉีดพ่นน้ำ มาสร้างออกซิเจนให้กับปลาในกระชังที่ยังเหลืออยู่ เพื่อป้องกันปลาตามเพิ่มอีก โดยเฉพาะปลาอายุประมาณ 4 เดือน มีอากาศไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ เกษตรกรที่เลี้ยงปลาอายุเฉลี่ย 1-2 เดือน ต้องเร่งเพิ่มอากาศให้กับปลา และเก็บเศษอาหารที่เหลือตกค้างออกจากกระชัง เพื่อไม่ให้น้ำเน่าเสีย ขณะที่เกษตรกรผู้เลี้ยงปลา เรียกร้องให้เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาด้วย
ปิดท้ายกันที่จังหวัดพิจิตร บริเวณแม่น้ำยม บ้านวังเทโพ ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง เกิดสภาพน้ำแห้งขอด กลายเป็นลำธารขนาดเล็ก ทำให้มีปลาตะเพียน และปลาสร้อยที่ว่ายตามสายน้ำมาเป็นจำนวนมาก
ชาวบ้านได้นำอุปกรณ์จับปลา ซึ่งมีทั้งแหและข่าย ดักปลาตะเพียนมีปลาตะเพียนติดข่ายเต็มไปหมด โดยชาวบ้านสามารถจับปลาได้เฉลี่ยคนละ 50 ถึง 100 กิโลกรัม รวมปลาที่จับต่อวัน สามารถจับปลาได้วันละกว่า 1,000 กิโลกรัม หรือมากกว่า 100,000 ตัว ส่วนหนึ่งชาวบ้านนำไปทำเป็นอาหาร นอกนั้นก็นำไปขายตามตลาดชุมชน สร้างรายได้