บึงสีไฟ จ.พิจิตร เกิดทรุดโทรม ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก พ่อค้า-แม่ค้า เดือดร้อนหนัก บางรายต้องปิดร้านไป สาเหตุจากบัวตาย-ปลาไม่มี และ ศาลากลางน้ำ ถูกปิดปรับปรุงมายาวนานข้ามปี
บึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ อันดับ 3 ของประเทศ มีเนื้อที่ 5,300 ไร่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่สำคัญ ของ จังหวัดพิจิตร และ เป็นแหล่งขยายพันธุ์สัตว์น้ำ ที่ใหญ่อันดับหนึ่ง ของภาคเหนือ เดิมบึงสีไฟอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์บัว พันธุ์ปลา พันธ์ุนก สัตว์เลื้อยคลาน และ พืชนานาชนิด แต่ปัจจุบัน กลับทรุดโทรมหนัก ไม่มีนักท่องเที่ยว เข้าไปเที่ยวชมเหมือนแต่ก่อน สร้างความเดือดร้อนแก่ กลุ่ม พ่อค้า - แม่ค้า ภายในบึงสีไฟอย่างมาก
กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า บอกว่า นักท่องเที่ยวลดลงไปมากจนแทบจะไม่มีใครมาท่องเที่ยวเลย แม้กระทั่งในช่วงฤดูการท่องเที่ยว เนื่องจาก พันธุ์บัว ที่เคยออกดอกบานสะพรั่ง ถูกเพลี้ยกัดกินใบและดอก จนไม่เหลือความสวยงาม
ส่วนพันธุ์ปลาในบึงก็แทบจะไม่มีเหลืออยู่ เพราะมีมิจฉาชีพลักลอบเข้ามาจับปลาไปขายเป็นประจำ รวมทั้ง ศาลาบึงสีไฟ ที่เป็นสัญลักษณ์ของบึงสีไฟ ที่มีอายุกว่าหนึ่งร้อยปี ประกาศปิดปรับปรุงมายาวนานข้ามปี แต่ไม่มีการปรับปรุงแต่อย่างใด
อีกทั้ง บริเวณวงเวียนทางเข้าบึงสีไฟ ทางหลวงหมายเลข 115 มีการซ่อมแซมนานเกือบปี และที่ บริเวณทางเข้าด้านหน้าบึงสีไฟ บริเวณหน้าจระเข้ใหญ่ จะมีการติดตั้งเต้นท์คาราวานขายสินค้า จัดงานอีเว้น จากภาคเอกชน เป็นประจำทุกเดือน เดือนละ 10 - 15 วัน โดยจะมีการปิดถนน เพื่อสร้างเวทีปิดทางเข้าบึงสีไฟ ซึ่งถือปัญหาที่ทำให้นักท่องเที่ยว ไม่ได้รับความสะดวก จึงหันไปท่องเที่ยวในสถานที่อื่นๆ แทน ทำให้ พ่อค้า - แม่ค้า ภายในบึงสีไฟได้รับผลกระทบอย่างหนัก บางรายต้องปิดกิจการ ไป
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พยายามพัฒนาและดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่จังหวัดพิจิตร เพื่อดึงเม็ดเงินเข้าจังหวัดอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด เนื่องจาก บึงสีไฟ มีหลายหน่วยงานหลัก ที่เข้ามากำกับดูแล ทำให้การพัฒนา หรือ การแก้ไขยังไม่ตรงจุด ไม่สอดคล้องกัน จึงทำให้บึงสีไฟ เสื่อมโทรม นักท่องเที่ยวลดลงไปมากจนน่าใจหาย