ครอบครัว "น้องเมย" เปิดใจกับสื่ออีกครั้ง หลังเสียชีวิตผ่านมาเกือบ 3 เดือน ระบุ คดีไม่คืบหน้า มีเพียงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไร้หลักฐานจุดเกิดเหตุ ด้าน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดชี้แจง เหตุไม่มีหลักฐานในโรงเรียนเตรียมทหาร เพราะตำรวจไม่เคยขอเข้ามาตรวจสอบ
วานนี้ (10 ม.ค.) นายพิเชษฐ นางสุกัลยา พ่อแม่ และ นางสาวสุพิชา ตัญกาญจน์ พี่สาวของ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ปี 2560 และ มีการชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า สาเหตุเกิดจาก “ภาวะหัวใจล้มเหลว” ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า
หลังน้องเมย เสียชีวิต วันนี้ผ่านมาใกล้ครบ 3 เดือน แต่ความคืบหน้าของคดี กลับยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน โดยเฉพาะเอกสารการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านนา จังหวัดนครนายก
นางสาวสุพิชา บอกว่า เรื่องนี้ ตำรวจมีอำนาจในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่แล้ว แต่เมื่อเราสอบถามไปยัง สภ.บ้านนา ก็ได้รับคำตอบเพียงว่า ได้ทำหนังสือขออนุญาตเข้าตรวจสอบพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ทำให้ตำรวจไม่สามารถทำงานได้ ทำให้ครอบครัวมีหลักฐานเพียงข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์เท่านั้น ส่วนที่ยังรออีก คือ ผลการตรวจอวัยวะน้องเมย ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำงานไป เพราะต้องการคำตอบที่ชัดเจนที่สุด ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องใช้เวลา
ส่วนกรณี ที่ได้รับการติดต่อจาก สื่อออนไลน์ของประเทศสิงคโปร์ เพื่อขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับ วิถีการต่อสู้ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ “น้องเมย ” นั้น เพราะสื่อดังล่าวให้ความสนใจสาเหตุการตายของน้องชาย เนื่องจากประเทศสิงคโปร์ มีการเสียชีวิตของทหารในค่ายเช่นกัน
ขณะที่ แนวทางการสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มีการตั้งนายทหาร เป็นคณะกรรมการสอบสวน เหมือนประเทศไทย แต่ของสิงคโปร์ มีการเปิดเผยต่อสาธารณชนอย่างละเอียด ทำให้ไม่เป็นที่สงสัยของสังคมมากนัก ซึ่งตนเองได้ตอบตามข้อเท็จจริงทุกอย่างแต่หากเป็นเรื่องที่กระทบกับรัฐบาล หรือ กองทัพ ก็เลือกที่จะไม่ตอบคำถามนั้น
ขณะที่ นางสุกัญญา บอกว่า การสัมภาษณ์ของสื่อต่างประเทศ เพียงเข้ามาสอบถามความรู้สึกในแง่ของการสูญเสีย และ การให้ความสนใจกับแนวทางการต่อสู้ของครอบครัว ที่ค่อนข้างโดดเดี่ยว และ การใช้ทางนิติวิทยาศาสตร์เข้าสู้ เพราะเวลานี้ ไม่มีใครกล้าออกมาให้ปากคำช่วยครอบครัวตนเอง ก็ทำให้ลำบากใจ เพราะความจริง ก็คือความจริง
ยิ่งเห็นรูปลูกตัวเอง และ ผลการชันสูตร ก็ยังคงรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น อีกทั้งมีคนพูด ว่า จะให้ลูกมาเป็นทหารแล้วทำไมรับไม่ได้เมื่อลูกตาย ก็อยากบอกว่า พ่อแม่ยอมได้อยู่แล้ว ถ้าลูกเป็นทหารแล้วตาย แต่ต้องไม่ใช่ตายในลักษณะที่มีความสงสัย เช่นนี้ คงไม่มีพ่อ-แม่คนไหนรับได้ จึงยังจำเป็นต้องเดินหน้าหาความยุติธรรมให้กับ น้องเมย ต่อไป
ด้าน พลเอก ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด บอกถึง กรณีครอบครัว น้องเมย ระบุว่า โรงเรียนเตรียมทหารไม่อนุญาตให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ว่า คงมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อย เพราะปกติทางตำรวจ จะมีขั้นตอนทำหนังสือเชิญรายชื่อคนที่เกี่ยวข้อง หรือ พยานเข้าไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ
แต่ตำรวจ ยังไม่เคยทำเรื่องขอเข้ามาที่โรงเรียนเตรียมทหาร มีเพียงทำเรื่องขอคนออกไปให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งทางโรงเรียนเตรียมทหาร และกองทัพไทย ก็พร้อมส่งคนออกไปตลอด มีการนัดวันและเวลา ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนปกติ