แม่ และ แฟนสาวของชายวัย 35 ปี ที่ถูกยิงขณะขับรถผ่านด่านตรวจชุมชนอำเภอแม่สรวย จนเสียชีวิตคาที่ เข้าพบ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากไม่เชื่อว่า ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่ ถูกจับจะเป็นผู้ก่อเหตุเพียงรายเดียว พร้อมขอโอนคดีไปกองปราบฯ
“ทนายสงกานต์” พาญาติเหยื่อกระสุนปริศนาเสียชีวิตคาด่านแม่สรวย ร้อง ผบ.ตร.
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (10 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พานางนาสอ จะยอ อายุ 79 ปี มารดาของนายศรชัย สถิตย์รักษ์ดำรงอายุ 35 ปี ที่ถูกระสุนปริศนาเข้าที่ท้ายทอยจนเสียชีวิต ขณะขับรถผ่าน ด่านตรวจชุมชนบ้านแม่ต๋ำ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เมื่อคืนวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา เข้าร้องทุกข์กับ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความเป็นธรรมให้เร่งรัดการสืบสวนสอบสวน และ ให้โอนสำนวนคดีมายังกองปราบปราม โดยมี แฟนสาวผู้ตาย และ ญาติ เดินทางมาด้วย
นางนาสอ จะยอ มารดาของผู้ตาย กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนดี และ เป็นเสาหลักของครอบครัว ตนอยากทราบว่าคนที่ยิงลูกชายเป็นใคร และ ยืนยันว่า จะไม่ฌาปนกิจจนกว่าตำรวจจะจับกุมคนร้ายได้ อยากขอความเป็นธรรมให้กับบุตรชาย พร้อมทั้งขอให้โอนคดีให้กองบังคับการปราบปรามรับผิดชอบแทน เพราะเกรงอิทธิพลในพื้นที่
ขณะที่ น.ส.ศิริรัตน์ แยเปียง แฟนสาวของผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนคนเดียว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวจะมาทำร้าย
เพราะบ้านอยู่ไม่ไกลกัน หลังเกิดเหตุไม่ได้ไปทำงาน โดยตนซึ่งเป็นไกด์ นำเที่ยวได้ลางาน 1 เดือน
รอง ผบ.ตร. สั่งขีดเส้นตายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีภายใน 3 วัน
ขณะที่ พลตำรวจเอกศรีวราห์ กล่าวว่า คดีนี้พร้อมให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ เบื้องต้นสั่งการให้ พลตำรวจตรี ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผู้บังคับกรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และตำรวจ สภ.แม่สรวย เร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ที่ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีภายใน 3 วัน
ส่วนการตรวจพิสูจน์หลักฐาน สั่งการให้ พลตำรวจตรี สันติ์ สุขวัจน์ ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 เร่งตรวจเปรียบเทียบหัวกระสุนกับอาวุธปืนต้องสงสัย จำนวน 6 กระบอก ที่ยึดมาจากเจ้าหน้าที่ ทั้ง 14 คน ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ
โดยภายในวันนี้ (11 ม.ค.) ก่อนเวลา 12.00 น. จะต้องรายงานผลเปรียบเทียบกระสุนปืน หากไม่มีความคืบหน้าตนจะลงพื้นที่คลี่คลายคดีด้วยตนเอง
ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้ตรวจสอบปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุที่หายไป รวมถึงสั่งการให้เรียก นายวุฒิชัย อิ่นใจ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่มเติม หลังมีข้อมูล และ พยานท ี่ระบุว่า ในวันเกิดเหตุมีผู้ยิงปืนทั้งหมด 3 คน
นอกจากนี้ได้สั่งให้ตำรวจในพื้นที่จัดกำลังคุ้มครองความปลอดภัยให้กับญาติผู้เสียชีวิต รวมทั้งพยานในคดีทั้งหมดด้วย
พบหลักฐานใหม่ ผู้ตายถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 ไม่ใช่ 9 ม.ม.
ด้าน พลตำรวจตรี สันติ์ สุขวัจน์ ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 ผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์หลักฐาน กล่าวว่า จากการตรวจสอบกระสุนที่พบในศีรษะผู้ตายเป็นหัวกระสุนชนิด จุด 223 ความเร็วสูง
ซึ่งปืนที่ส่งมาตรวจสอบกับตำรวจมีทั้งหมด 6 กระบอก เป็นปืนสั้นขนาด 9 มม. 5 กระบอก ที่ตำรวจยึดมาได้
ส่วนอีก 1 กระบอกเป็นอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ทหารนำมามอบให้ จากการตรวจสอบพบมีการใช้งานปืน 2 กระบอก คือ อาวุธปืนเอ็ม 16 และ ปืนของนายวุฒิชัย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
"ทหารเกณฑ์" รับเป็นคนยิงปืนเอ็ม 16 เตรียมเข้ามอบตัวกับ ตร.ภาค 5 วันที่ 12 ม.ค.นี้
ทั้งนี้ ภายหลังมารดา และญาติของนายศรชัย (ผู้ตาย) เข้าพบ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ทหารเกณฑ์นายหนึ่ง ที่ปฏิบัติหน้าที่ และมาเยี่ยมดูความเรียบร้อยของด่านตรวจในวันเวลาที่เกิดเหตุ ได้รับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงใส่รถ ขณะที่นายศรชัย (ผู้ตาย) ขับรถ ผ่านด่าน
โดยก่อนหน้านี้มีพยาน ระบุว่า ในวันเกิดเหตุนอกจากจะมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และ เจ้าที่ประจำด่านแล้ว ยังมีทหารอีก 2 นาย เป็นทหารยศนายสิบ และ ทหารเกณฑ์ 1 นาย ประจำการอยู่ด้วย
โดยผู้บังคับบัญชาของทหารที่รับสารภาพ เตรียมพาเข้ามอบตัว ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ ในวันศุกร์ที่ 12 มกราคมนี้