หลังจากมีชาวญี่ปุ่น ออกมาโพสต์ข้อความว่า อาหาร และเครื่องดื่มภายในสนามบินของประเทศไทยมีราคาแพงเกินเหตุ ทำให้วานนี้ บริษัทท่าอากาศยานไทย ออกมาชี้แจงแล้ว ว่า ราคาอาหารในสนามบินถูกควบคุมไม่ให้สูงกว่าราคาตามท้องตลาดเกิน 25% พร้อมชี้แจงราคาน้ำดื่มไม่ได้แพงถึง 40 บาท ตามที่ชาวญี่ปุ่นระบุ
วานนี้ (10ม.ค.) เพจเฟซบุ๊กของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) โพสต์ข้อความชี้แจงกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชายชาวญี่ปุ่น โพสต์ข้อความ ระบุว่า ราคาอาหาร และเครื่องดื่มภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมืองมีราคาแพงเกินเหตุเนื้อหาระบุว่า
1. ทอท. ได้กำหนดเงื่อนไขสัญญาให้ผู้ประกอบการต้องควบคุมราคาสินค้า และ ค่าบริการไม่ให้สูงเกินกว่าราคาในท้องตลาดประมาณร้อยละ 20 - 25 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่ท่าอากาศยานแต่ละแห่งตั้งอยู่
รวมทั้งได้ขอความร่วมมือให้จำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นให้สอดคล้องกับราคาของตลาด พร้อมทั้งติดป้ายแสดงราคาด้วย ที่ผ่านมา ทอท. ได้มีการสุ่มตรวจราคาอาหารของผู้ประกอบการภายในท่าอากาศยานตลอดเวลา เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไข
2. สำหรับกรณีที่ชายชาวญี่ปุ่น ที่ได้เสนอข่าวว่า น้ำดื่มขวดละ 40 บาท นั้น ข้อความดังกล่าวยังมีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากร้านค้าภายในท่าอากาศยานจำหน่ายน้ำเปล่า ที่บรรจุขวดขนาด 500 มิลลิลิตร ในราคาขวดละไม่เกิน 10 บาท ส่วนราคาน้ำแร่จะอยู่ระหว่างขวดละ 25 – 50 บาท ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตสินค้าแต่ละราย
นอกจากนี้ ทอท.ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการที่จำหน่ายอาหารให้เพิ่มรายการอาหารจานเดียวหรืออาหารชุดราคาประหยัดอย่างน้อย 1 รายการ และ กำกับให้ผู้ประกอบการติดป้ายราคาสินค้าทุกรายการ
ด้าน นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยอมรับว่า ส่วนตัวรู้สึกว่า ราคาสินค้า อาหาร และ น้ำที่สนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ แพงเช่นกัน เพราะไม่รู้ว่า ราคาถูกบวกจากปกติขึ้นไปเท่าไหร่ และ บวกจากอะไร แม้หลายคนจะรู้ว่า ของที่ขายในสนามบินจะมีราคาที่แพงกว่าปกติบ้าง แต่ทำให้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของนักท่องเที่ยว
ซึ่งร้านค้าก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุด คือ เลี่ยงการซื้อรับประทานในสนามบิน เพราะคนส่วนใหญ่ และตน มักเลี่ยงรับประทานอาหารในสนามบิน ด้วยการหารับประทานไปก่อนที่จะเข้าไปในพื้นที่สนามบิน หรือไม่อย่างนั้นก็รับประทานบนเครื่อง หรือไม่ก็ทนรับประทานที่ปลายทางไปเลย