เจ้าของธุรกิจขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่จังหวัดนนทบุรี เข้าร้องเรียนกับตำรวจกองปราบปราม ให้ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้าย ที่ก่อเหตุใช้มีดแทงลูกชายวัย 18 ปี ตั้งแต่ปี 2559 ผ่านมา 2 ปี คดีไม่มีความคืบหน้า
นางลลิดา ศรีวรนันท์ อายุ 48 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี ประกอบธุรกิจขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ เดินทางเข้ามาร้องของความเป็นธรรม กับตำรวจกองปราบปราม เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้าย ที่ก่อเหตุใช้มีดแทงนายอนันดา ศรีวรนันท์ หรือ "น้องต้าร์" อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ลูกชายจนเสียชีวิต โดยไม่ทราบสาเหตุ เหตุเกิดภายในปั๊มน้ำมัน ย่านถนนกรุงเทพ-นนท์ จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 21 มกราคม ปี 2559
นางลลิดา ศรีวรนันท์ เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าว กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน ขณะที่ "น้องต้าร์" เดินเข้ามาที่ลานจอดรถภายในปั๊มกับเพื่อน จากนั้น ได้มีวัยรุ่นชายอีกคนหนึ่งใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยืดคอกลมสีดำ มือขวาถือมีดยาวประมาณ 1 ฟุต เดินตามหลังมาในระยะประชิด ระหว่างที่ "น้องต้าร์" ยืนหันหลังอยู่ และกำลังหันหน้ามา
ปรากฏว่า ชายคนที่เดินตามหลังมานั้น ได้ใช้มีดกระหน่ำแทง น้องตาร์ 3-4 ครั้ง จนล้มลงกองอยู่กับพื้น ก่อนจะยกมีดขึ้นมาข่มขู่ เพื่อนที่มาด้วยกันกับน้องตาร์ จากนั้นคนร้าย ก็เดินหนีไป
หลังเกิดเหตุได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านมา 2 ปีแล้ว แต่คดีไม่คืบหน้า จึงอยากวอนขอให้ทางตำรวจกองปราบฯ ช่วยเร่งรัดคดี เพราะเวลาล่วงเลยมานาน แต่ยังไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ซึ่งกล้องวงจรปิดก็มีภาพใบหน้าของคนร้ายชัดเจน
นางลลิดา ยังบอกอีกว่า ลูกชายตนเพิ่งสอบเข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือได้ ตามที่ใฝ่ฝันไว้ อีกไม่กี่วันก็จะไปรายงานตัวต่อทางมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ก็มาถูกฆ่าเสียก่อน ซึ่งตนอยากรู้ว่า ทำไมคนร้ายต้องฆ่าลูกตนด้วย เพราะลูกชายเป็นคนตั้งใจเรียน
เบื้องต้น พันตำรวจเอก อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผู้กำกับการ กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ได้รับเรื่องไว้ พร้อมทั้งสั่งการให้ชุดสืบสวนจัดกำลังเข้าสืบสวน ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม คาดว่า น่าจะตามตัวคนร้ายรายนี้ได้ไม่ยาก เนื่องจากมีหมายจับ และเจ้าหน้าที่พอจะทราบเบาะแส และข้อมูลคนร้ายแล้ว