กรมอุทยานฯ ยืนยัน ยังไม่แจ้งข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่กับหัวหน้าวิเชียร กรณีละเว้นเก็บค่าธรรมค่าเข้าอุทยานฯ ขณะที่ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมพิจารณาลาออกจากราชการ หากถูกสังคมกดดันจนไม่มีที่ยืน
นางสาวกาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เปิดเผยถึงกรณีที่ได้รับคำเชิญเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. ในคดีการลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี
โดยยืนยันว่าการเข้าพื้นที่ของนายเปรมชัยกับพวก ได้รับการประสานจากอดีตข้าราชการรายหนึ่ง ว่ามีคนรู้จักจะขออนุญาตเข้าพื้นที่ไปศึกษาธรรมชาติ ซึ่งได้ปฎิเสธไปเพราะไม่ได้อยู่ในส่วนที่รับผิดชอบ และให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบแทน พร้อมยืนยันว่าไม่รู้จักกับอดีตข้าราชการรายนี้ และนายเปรมชัยเป็นการส่วนตัว ที่สำคัญตนยังไม่เคยเห็นหนังสือขออนุญาตเข้าพื้นที่ และการออกหนังสือนุญาต ก็ต้องยื่นกับพื้นที่บ้านโป่ง ไม่ได้ส่งมาให้ตนอนุมัติแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกันยอมรับว่ารู้สึกท้อแท้กับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าการที่เป็นคนแนะนำเรื่องการประสานงาน จนนำไปสู่การลักลอบล่าสัตว์ป่า และยังทำให้ถูกสังคมมองว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุน และหากสุดท้ายไม่มีที่ยืนในสังคมก็อาจพิจารณาลาออกจากตำแหน่ง ก่อนเกษียนอายุราชการที่เหลืออีกเพียง 1 ปี
ส่วนกรณีที่จะดำเนินคดีกับหัวหน้าวิเชียร เรื่องค่าธรรมเนียบ-อนุญตเข้าอุทยานฯ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาปฎิเสธว่าจนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับนายวิเชียรแต่อย่างใด มีเพียงการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับนายเปรมชัยและพวกฐานติดสินบนเจ้าพนักงานเท่านั้น
เช่นเดียวกับนายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยืนยันว่ายังไม่มีการดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางวินัยกับนายวิเชียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร กรณีไม่เก็บค่าธรรมเนียมเป็นเงินรวม 110 บาท ในการเข้าพื้นที่ของกรมอุทยานฯ จากนายเปรมชัย กรรณสูตร และพวก เพราะจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นเชื่อว่านายวิเชียรไม่มีเจตนาในการละเว้นการเก็บค่าธรรมเนียม
ทั้งนี้ หลังจากนี้ ทางกรมอุทยานฯ จะต้องตรวจสอบบุคคลเข้าออกพื้นที่อย่างเข้มงวด ซึ่งตามระเบียบการอนุญาตให้เข้าพื้นที่จะต้องมีการทำหนังสือมาอย่างเป็นทางการ โดยต่อจากนี้จะต้องระมัดระวังการอนุญาตด้วยวาจาให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำรอย
ส่วนความพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ นายวิเชียร ได้ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบหรือ บก.ปปป.กล่าวโทษ นายเปรมชัยและพวก ฐานให้สินบนเจ้าพนักงานแล้ว
สำหรับคลิปเสียงที่ระบุว่าเป็นการต่อรองคดี พลตำรวจเอกศรีวราห์ระบุว่าขณะนี้รู้ตัวบุคคลในคลิปเสียงแล้ว จากนี้จะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพื่อให้สำนวนคดีครบถ้วนสมบูรณ์
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า นายเปรมชัย หลบหนีออกนอกประเทศ ไปอยู่เมืองทวาย ประเทศเมียนมาร์ นั้นตำรวจยังไม่มีข้อมูลการหลบหนีออกนอกประเทศ