สถาณการณ์ไฟป่าเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคกลาง เจ้าหน้าที่พยายามควบคุม และป้องกันอย่างเต็มที่
เจ้าหน้าที่อาสาสมัครเหยี่ยวไฟป่า อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง พร้อมชาวบ้านบ้านสาป่าก่อ เร่งฉีดน้ำสกัดไฟป่าที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง หลังไหม้บริเวณป่าสงวนแห่งชาติห้วยหลวงเป็นบริเวณกว้าง โดยใช้เวลาหลายชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามได้
จากการตรวจสอบพบว่า มีพื้นที่ป่าถูกไฟไหม้ป่าเสียหายไปไม่น้อยกว่า 100 ไร่ ส่วนสาเหตุคาดว่า อาจจะมาจากการจุดไฟเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ และการเกิดไฟป่าครั้งนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ในการล่องแพ ชมธรรมชาติเหนือเขื่อนกิ่วลมด้วย
เช่นเดียวกับที่จังหวัดตาก ซึ่งชาวไร่อ้อยบ้านสัน ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด ลักลอบเผาไร่อ้อยเมื่อกลางดึก ทำให้เกิดไฟไหม้พื้นที่เป็นบริเวณกว้างกว่า 10 ไร่ อบต. แม่ปะ จึงได้นำรถดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ชุดหน่วยดับไฟป่าประจำหมู่บ้าน เข้าควบคุมเพลิงไว้ได้
ส่วนที่จังหวัดอุทัยธานี เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่าห้วยขาแข้งกว่า 30 นาย เร่งทำแนวกันไฟป่า บริเวณหมูบ้านเขาเขียว ตำบลระบำ อำเภอลานสัก ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกับอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ในเขตตำบลแม่เปิน อำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดเสี่ยงที่เกิดไฟป่ารุนแรงเกือบทุกปี
ปิดท้ายกันที่จังหวัดพิจิตร สภาพของแม่น้ำยม ที่บริเวณตำบลรังนก อำเภอสามง่าม เริ่มแห้งขอดลดระดับลง เห็นเนินดินกลางแม่น้ำ ขณะที่เกษตรกรชาวนา ต้องทำการเร่งทำการสูบน้ำที่เหลืออยู่ ขึ้นหล่อเลี้ยงนาข้าวกว่า 30 ไร่ ซึ่งคาดว่า น้ำที่เหลืออยู่ จะแห้งลงภายในเดือนมีนาคม
จากสถานการณ์แม่น้ำยมที่ลดระดับลงอย่างรวดเร็ว เกษตรกรเริ่มขาดน้ำในการทำไร่นา ที่มีการปลูกตลอดทั้งสองฝั่งแม่น้ำยม กว่า 10,000 ไร่ และยังส่งผลกระทบไปถึงระบบนิเวศน์ในพื้นที่อีกหลายแห่งด้วย