กรมการขนส่งทางบกเตรียมบังคับใช้ "ใบรับรองแพทย์" แบบ 2 ท่อน เริ่ม 1 มีนาคมนี้ โดยผู้ขอต้องเซ็นรับรองสุขภาพตัวเองด้วย พร้อมกำหนด 5 โรคต้องห้าม
เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก นำผู้สื่อข่าวช่อง 8 เดินดูบริเวณห้องอบรม และห้องสอบสมรรถภาพร่างกายของผู้ที่ต้องการขอใบอนุญาตขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตั้งแต่การตรวจตาบอดสี / ระยะสั้น-ยาวของสายตา / ความไวของเท้าด้วยการเหยียบคันเร่งและเบรค ซึ่งทุกคนจะต้องผ่านการตรวจอย่างเคร่งครัดเช่นเดิม
แต่จะมีเปลี่ยนแปลงคือ เอกสาร "ใบรับรองแพทย์" จะต้องเป็นแบบสองท่อน คือ มีรายละเอียดส่วนที่ 1 ของผู้ขอรับใบรับรองแพทย์ ซึ่งต้องระบุ โรคประจำตัว อุบัติเหตุและการผ่าตัด รวมถึงประวัติการรักษา ซึ่งผู้ขอจะต้องกรอกเอง และเซ็นชื่อรับรอง
ส่วนที่ 2 เป็นรายละเอียดที่แพทย์จะต้องระบุ เช่น สถานที่ตรวจ / ชื่อนายแพทย์ / และต้องรับรองว่าบุคคลดังกล่าวไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพ / ไม่ปรากฎอาการของโรคจิต / การติดยาเสพติด หรือโรคที่สุ่มเสี่ยง เป็นอันตรายต่อการ ขับขี่ยานพาหนะ เช่น โรคลมชัก โรคความดันโลหิตสูง
โดยแบบฟอร์มใบรับรองแพทย์ดังกล่าว ทางแพทยสภาออกประกาศใช้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 และได้แจ้งให้มีการปรับใหม่ แต่ที่ผ่านมา พบว่า บางแห่งยังใช้ใบรับรองแพทย์แบบท่อนเดียว ซึ่งก็สามารถใช้ได้ในบางกรณี แต่ใบรับรองแพทย์แบบ 2 ท่อน ถือว่า เป็นการลดความเสี่ยงของสถานพยาบาลที่ออกใบรับรองด้วย
ส่วนกรณีที่ผู้ขอใบรับรองแพทย์อาจจะปกปิดโรคประจำตัว หรือกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน ซึ่งเมื่อได้รับใบอนุญาตขับขี่ไปแล้ว แต่มาพบว่า มีอาการกำเริบในภายหลัง จะต้องถูกยกเลิกใบอนุญาตทันที ส่วนจะมีมาตรการหรือไม่ กำลังอยู่ระหว่างการหารือ
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกมีความพร้อมประกาศใช้ใบรับรองแพทย์ แบบ 2 ท่อน ตั้งแต่ 1 มีนาคมนี้เป็นต้นไป