พ่อ "น้องออมสิน" เข้าพบตำรวจแล้ว กรณีลูกสาวถูกทำร้าย เชื่อพี่เลี้ยงเป็นคนทำร้ายลูกสาว จนเป็นรอยฟกซ้ำ มีรอยเล็บข่วนตามตัว ยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดยระบุว่า ก่อนที่จะนำไปให้เลี้ยงลูกสาว ไม่มีแผลตามที่พี่เลี้ยง และลุงของเด็กให้การ

จากกรณี "น้องออมสิน" วัย 2 ขวบ 4 เดือน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอ่างทอง พบว่า ตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำ บริเวณลำคอ แก้ม และรอยเล็บทั่วตัว มีผมหลุดร่วงหายไปจำนวนมาก และผลเอ็กซเรย์ ยังพบวัตถุคล้ายตะปู หรือน็อต อยู่ในกระเพาะอาหาร เด็กมีอาการหวาดผวากลัวคนแปลกหน้า

ซึ่งก่อนหน้านี้ ลุงของเด็ก ระบุว่า หลานสาวมีแผลเต็มตัว ตั้งแต่น้องชายนำมาเลี้ยง จากนั้นตนเองนำหลานไปฝากเลี้ยงกับพี่เลี้ยง ชื่อ แตง ที่ อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี พร้อมอ้างว่า ไม่มีใครทำร้ายหลานสาว แต่ตัวเด็ก ชอบหยิก และเกาตัวเองถ้าไม่ถูกตามใจ

ส่วนนางสาวแตง พี่เลี้ยงก็อ้างว่า หลังรับจ้างเลี้ยง น้อมออมสิน สังเกตุ พบว่า มีพฤติกรรม ชอบทำร้ายตัวเอง เวลาโกรธ หรือกลัวก็จะตัวเกร็ง ชอบเอาเล็บไปข่วนหน้า ข่วนตามแขน เวลาโมโหก็จะดึงทึ้งผมตัวเอง มีแผลติดตัวมาตั้งแต่แรก ก่อนหน้านี้เคยปรึกษาแพทย์ว่า ทำไมเด็กมี พฤติกรรมชอบทำร้ายตัวเองด้วย

ตำรวจจึงยังไม่ได้แจ้งดำเนินคดีกับใคร ล่าสุด พ่อของ "น้องออมสิน" ได้เดินทางมาที่จังหวัดชลบุรี เข้าพบ พันตำรวจโทเดโช กันหะ พนักงานสอบสวน สภ. ค่ายบางระจัน เจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม

พ่อของ "น้องออมสิน" เปิดเผยว่า ล่าสุดอาการของลูกสาวยังทรงตัว หมอสั่งงดข้าวงดน้ำ มีรอยซี่โครงหัก กระดูกหลังบวม และมีน็อตสกรูอยู่ในท้อง ตนยังไม่ได้คุยกับพี่ชาย เพราะรู้สึกโกรธที่พี่ชายออกมาให้สัมภาษณ์ว่า น้องมีแผล มีรอย ตั้งแต่ก่อนที่ตนจะพาไปฝากเลี้ยง ซึ่งยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง

พร้อมเล่าว่า ตนได้นำลูกสาวไปฝากพี่ชายเลี้ยง ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 เพราะตั้งใจไว้ว่าเดือนเมษายนนี้ ตนกับแฟนจะลาออกจากงานที่จังหวัดชลบุรี แล้วกลับไปทำเกษตรที่บ้านในจังหวัดอ่างทอง จึงนำลูกสาวไปฝากไว้ เพื่อให้ปรับตัวเข้ากับญาติก่อน

 ตอนแรกไม่ทราบว่า พี่ชายจะเอาน้องไปฝากให้นางแตงเลี้ยงอีกทีหนึ่ง มาทราบเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็ได้กำชับพี่ชายแล้ว แต่พี่ชายบอกว่า นางแตง ไว้ใจได้ เพราะเป็นเพื่อนกัน และเคยเลี้ยงเด็กมาก่อน ตนเองจึงไม่ได้ว่าอะไร และตั้งแต่เอาน้องไปฝากเลี้ยงกับนางแตง พี่ชายก็บอกตลอดว่า น้องอยู่ดี กินดี ร่าเริง แต่พอตนจะกลับไปเยี่ยมก็บ่ายเบี่ยงว่า ยังไม่ต้องมา ให้มาทีเดียวเดือนเมษายน

พ่อน้องออมสิน กล่าวอีกว่า ตนเองเชื่อว่า นางแตง เป็นคนทำร้ายลูกสาว เพราะดูข่าวตอนที่ให้สัมภาษณ์ ได้ถามลูกสาวว่า รู้จัก "นางแตง" ไหม ลูกสาวบอกว่า กลัว แต่พอถามว่า ทำไม ก็นิ่งไม่ยอมพูดอะไร ตนจึงพูดต่อว่า ถ้าพ่อให้ไปอยู่กับเขาเอาไหม น้องก็ร้องไห้ดังลั่นขึ้นมาทันที

นอกจากนี้ พ่อน้องออมสิน ยอมรับว่า คิดผิดอย่างมากที่ส่งลูกไปให้คนอื่นเลี้ยง จากเด็กที่เคยร่าเริง กลายเป็นเด็กซึม ผวา ซึ่งตนรับไม่ได้ ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ถึงแม้ว่า จะยังไม่รู้ว่าพี่เลี้ยง หรือใครเป็นคนทำก็ตาม แต่ตั้งข้อสังเกตว่า พี่ชายกับนางแตง บอกว่า รักลูกของตน แต่ทำไมตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่เคยมาเยี่ยมลูกตนเลยซักครั้ง และยืนยันว่า จะเอาเรื่องทุกคนที่ทำร้ายลูกสาวให้ถึงที่สุด

ภายหลังพ่อน้องออนสิน ให้ปากคำ ก็ได้เดินทางพร้อมด้วยพันตำรวจโทเดโช ออกเดินทางจากสิงห์บุรี ไปยังจังหวัดชลบุรี เพื่อสอบปากคำพยานคนอื่นๆ ทั้ง ยาย ตาทวดของน้องออมสิน และเพื่อนบ้าน

 พันตำรวจโทเดโช กล่าวว่า จากการสอบปากคำญาติเด็ก ทุกคนยืนยันว่า น้องไม่มีบาดแผล และไม่มีใครตีหรือทำร้ายน้อง และเด็ก ก็ไม่เคยทำร้ายตัวเอง ส่วนลุงและพี่เลี้ยง ยังยืนยันว่า ไม่ได้ทำร้ายเด็ก บาดแผลตามตัวที่เกิดขึ้น เกิดจากการกระทำของเด็กเอง

แต่ทั้งนี้ ล่าสุด ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับใคร อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และดูผลตรวจแพทย์เป็นหลัก ยืนยันว่า คดีมีความคืบหน้า และจะมีความชัดเจนเร็วๆนี้

พ่อเด็กหญิงวัย 2 ขวบมีแผลถูกทำร้าย-ตะปูในท้อง เข้าพบตำรวจ