"นายองอาจ คล้ามไพบูลย์" ชี้กรณีที่ สนช.ไม่เห็นชอบ 7 ว่าที่กกต.จะส่งผลคณะกรรมการสรรหากกกต.ทำงานยากขึ้น แนะให้สนช.บอกคณะกรรมการสรรหาว่า ต้องการกกต.สเปกแบบใด ด้าน "นายสมชัย ศรีสุทธิยากร" ยันไม่ลาออกจาก กกต. เผยวันนี้เตรียมตัดสินใจอะไรบางอย่าง
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกระแสข่าวว่าจะลาออกจากตำแหน่งกกต.เพราะไม่อยากเป็นคดีความหากมีการจัดการเลือกตั้งว่า จะไม่มีการลาออกจากตำแหน่งแน่นอน เพราะวิธีการดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดผลดี
แต่ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะติดขัดมากยิ่งขึ้น เพราะหากมี กกต.ชุดปัจจุบัน ลาออก 2 คนจะเป็นการนำไปสู่ภาวะสุญญากาศ คือไม่สามารถตัดสินใจในเรื่องสำคัญต่างๆ
หลังจากก่อนหน้านี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติไม่เห็นชอบว่าที่ 7 กกต.ใหม่
นายสมชัย กล่าวว่า ในวันนี้ (26 ก.พ.) เวลา 14.00 น. ตนเองจะแจ้งผลการตัดสินใจบางอย่างต่อผู้สื่อข่าว แต่เป็นเรื่องการตัดสินใจส่วนตัว ไม่ใช่มติ กกต. และไม่ใช่เรื่องลาออก แต่เป็นการตัดสินใจเพื่อให้เกิดผลที่ดีที่สุดแก่ทุกฝ่าย
มีรายงานว่า การตัดสินใจของนายสมชัย น่าจะตัดสินใจลงสมัครรับคัดเลือกเป็นเลขาธิการ กกต. เพราะเป็นการยอมลดตำแหน่งของตนเอง ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า กกต.อีก 4 คนที่เหลือจะตัดสินใจเลือกหรือไม่ เรื่องนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สนช.มีมติไม่เห็นชอบว่าที่ กกต.ทั้ง 7 คนว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาทั้งหมดจะต้องมาทบทวนเกี่ยวกับปัญหาที่ผ่านมาว่า เกิดอะไรขึ้นและเกิดจากอะไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก
และเพื่อให้เกิดความราบรื่นในการสรรหากกต.รอบใหม่ ส่วนรัฐบาลจะต้องสร้างความเชื่อมั่นว่า ทุกอย่างสามารถเดินตามโรดแมปได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คุณสมบัติของกกต.ใหม่ ไม่ได้กำหนดไว้สูงเกินไป เพราะเชื่อว่ามีบุคคลที่มีคุณสมบัติอีกมากมาย แต่ไม่กล้าเข้ามาดำรงตำแหน่ง
ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการคว่ำว่าที่ 7 กกต.ว่า เป็นเรื่องที่แปลกที่บุคคลซึ่งผ่านการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหามาเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่มีใครเหมาะสมพอที่ สนช.จะเห็นชอบได้เลย
การที่ สนช.ไม่เห็นชอบ กกต.ทั้ง 7 คน ย่อมทำให้คณะกรรมการสรรหาทำงานยากลำบากมากขึ้น เพราะไม่รู้ว่า สนช.ต้องการ กกต.แบบไหน ดังนั้น สนช.ควร แจ้งให้คณะกรรมการสรรหาทราบว่า อยากได้ กกต.แบบไหน เพื่อทำให้คณะกรรมการสรรหาทำงานได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ การได้มาซึ่ง กกต. จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้มีอำนาจไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้องแทรกแซงโดยเด็ดขาด เพราะจะก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในการเลือกตั้ง ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกไม่รู้จบ ส่งผลกระทบต่อการเดินหน้าประเทศไทยอย่างแน่นอน
ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่สนช.ไม่เห็นชอบ 7 ว่าที่ กกต. เป็นการทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป เพราะไม่รู้ว่าจะมีใครมาสมัครหรือไม่ และจะสรรหา กกต.ใหม่ได้สำเร็จเมื่อไหร่
ซึ่งคนที่มีคุณสมบัติอาจจะไม่อยาก หรือไม่กล้ามาสมัคร และหากเมื่อได้ตัวบุคคลที่มีคุณสมบัติมาแล้ว ถ้าไม่ใช่บุคคลตามสเปกของผู้มีอำนาจก็อาจจะมีใบสั่งไม่ให้เห็นชอบอีกก็ได้ ซึ่งกกต.ใหม่ตามรัฐธรรมนูญนี้จะมีอำนาจมาก สามารถให้คุณ หรือ ให้โทษต่อการเลือกตั้งได้ ดังนั้นหาก กกต.เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็จะมีผลกระทบมาก