รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน คดีนายเปรมชัย กรรณสูต มีความคืบหน้ากว่า 80% และ ไม่ได้หลุดข้อหา ทารุณกรรมสัตว์ แต่ข้อหาล่าสัตว์ป่า ไม่ได้ครอบคลุมไว้ด้วย เตรียมพิจารณาคนแจ้งเอาผิด มีเจตนากลั่นแกล้งหรือไม่
"ศรีวราห์" สั่งสอบคนแจ้งเอาผิด "เปรมชัย" ข้อหาทารุณสัตว์ กลั่นแกล้งหรือไม่
พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดี นายเปรมชัย กรรณสูต และ พวก กรณีลักลอบล่าสัตว์ป่า ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี
พร้อมเปิดเผย ว่า ขณะนี้คดีนี้มีความคืบหน้ามากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง เจ้าหน้าที่กรมอุทยาน พยานแวดล้อม และ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ไป 30 ปาก หลังจากนี้ จะเรียก นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เข้าให้ปากคำในวันที่ 5 มีนาคม กรณีส่งหลักฐานเพิ่ม เป็นกระดูก 2 ชิ้น และ ถุงที่ใช้บรรจุซากสัตว์ เพื่อตรวจสอบว่า จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่
ส่วนการนัดให้ นายเปรมชัย เข้ามารายงานตัววันที่ 5 มีนาคมนี้ หากนายเปรมชัยไม่มา จะส่งเรื่องให้ศาลจังหวัดทองผาภูมิทราบ พร้อมขอให้ศาลพิจารณาออกหมายจับ เนื่องจากเป็นการขัดหมายเรียกครั้งที่ 2 ระหว่างได้รับการประกันตัว
ส่วนกรณีแชร์กันในโซเชียลมีเดียว่า นายเปรมชัย หลุดคดี ข้อหาทารุณกรรมสัตว์ป่า ที่มีหัวหน้าด้านกักสัตว์กาญจนบุรี แจ้งความดำเนินคดีกับนายเปรมชัย และ ถอนแจ้งความไปนั้น ยืนยันว่า ข้อหาดังกล่าวไม่ได้หลุด แต่เนื่องจาก ข้อหานี้ ไม่มีในข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 จึงได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนไปพิจารณา ว่า ผู้ที่ร้องทุกข์เข้าข่ายมีเจตนากลั่นแกล้ง หรือ แจ้งความเท็จหรือไม่
ปปป. ยัน เสียงในคลิป ไม่ใช่"เปรมชัย" ข้อหาติดสินบนน้ำหนักไม่เพียงพอ
ขณะที่ พันตำรวจเอก ชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ยอมรับว่า ขณะนี้ พยานหลักฐานข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เนื่องจากคลิปเสียงที่ปรากฏไม่ใช่เสียงของ นายเปรมชัย และเนื้อหาเป็นการสนทนาทั่วไป
โดยเป็นเสียง นายยงค์ โดดเครือ 1 ในผู้ต้องหา สนทนากับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ มี นายปิยะพงษ์ สืบเสน เจ้าหน้าที่ เป็นผู้บันทึกเสียงเอาไว้ เป็นการสนทนาหลังถูกจับกุม เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และ ได้นำคลิปเสียงให้สื่อมวลชน ก่อนจะมีการลบออกจากโทรศัพท์ ยืนยันคลิปเสียงไม่ได้หาย
พร้อมกันนี้ ในวันที่ 8 มีนาคม จะเชิญ นายวิเชียร กับ พยานอีก 5 คน มาให้ปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะมีการประชุมสรุป ว่า จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ในวันที่ 12 มีนาคม นี้
ทส.เตรียมประชุม คดีเปรมชัย พิจารณาเพิ่มข้อหาหรือไม่ในวันนี้
ส่วน นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บอกว่า เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่าง ส่งมอบให้ตำรวจเพื่อดำเนินตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมแล้ว ยืนยัน กรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ
และ ในวันนี้ ( 28 ก.พ.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เรียกประชุมคณะกรรมการ ติดตามคดี และ ตรวจสอบสำนวน หลักฐาน ให้รัดกุม หลังแจ้งเอาผิด นายเปรมชัยและพวก รวม 9 ข้อหา ส่วนจะมีการเพิ่มข้อหาหรือไม่ จะสรุปอีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ ตรวจสอบดีเอ็นเอ งาช้างที่ตรวจยึดได้จากบ้านนายเปรมชัย จำนวน 4 กิ่ง หรือ 2 คู่ เสร็จเรียบร้อยแล้ว พบว่า เป็นงาช้างแอฟริกาทั้ง 2 คู่
การครอบครองดังกล่าว ส่อเป็นความผิดตาม มาตรา 19 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 ฉบับแก้ไข ปี 2557 ที่ให้ช้างแอฟริกาเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง มีโทษสูงสุดจำคุก 4 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายกฯ ยืนยัน คดีเปรมชัย อย่าคาดการณ์ล่วงหน้า ทุกอย่างมีขั้นตอน
ขณะที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกถึงกรณีที่ นิสิตคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ยื่นหนังสือเรียกร้องให้เร่งรัดคดีนายเปรมชัย และ พวกหวั่นคดีเงียบหาย คนผิดไม่ได้ถูกลงโทษ ว่า ต้องมองว่าทุกคดีมีขั้นตอนดำเนินการ คดีนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฟ้องร้องไปแล้วหลายคดี ขณะนี้เป็นขั้นตอนที่ตำรวจต้องสอบสวนหาพยานและหลักฐาน และทำสำนวนคดี ส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ก่อนไปต่อสู้คดีในชั้นศาล
ขออย่าไปตัดสิน หรือ คาดการณ์ล่วงหน้า เพราะเป็นเรื่องกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับคดีอื่นๆ ไม่ใช่ว่า คนรวยติดคุก หรือ ไม่ติดคุก ไม่เช่นนั้นสังคมก็จะปั่นป่วน ขอให้เชื่อมั่น ซึ่งตนเองได้ กำชับกระทรวงทรัพย์ฯ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ทำตามข้อเท็จจริง ทุกเรื่องรัฐบาลก็สั่งการมาตลอด เหลือเพียงอย่างเดียวคือ ตนคงต้องไปฟ้องเป็นอัยการ เป็นตำรวจและทำสำนวนเอง เพราะทุกคนคาดหวังกับตนเองตลอด ที่ผ่านมาได้พยายามทำตามหน้าที่ ในกรอบอำนาจอย่างเต็มที่แล้ว ขอให้ทุกคนช่วยกันด้วย
วันเดียวกัน มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์จัดเวทีสาธารณะ 1 เดือน เพื่อติดตามการดำเนินคดีนายเปรมชัยและพวก โดยจะมี กิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อติดตามความคืบหน้า ร่วมกับเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อมในเดือนมีนาคม ตลอดทั้งเดือน เริ่มวันที่ 5 มีนาคม นี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานมูลนิธิสืบฯ จังหวัดนนทบุรี